บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) โดย
คุณ ประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จับมือกับ
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) โดย คุณแอน จักรพงษ์
จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานแถลง ความร่วมมือทางธุรกิจ
ในการขายลิขสิทธิ์ละครไทยในต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของความร่วมมือของทั้งสองบริษัทในการสร้างโอกาสทางธุรกิจของคอนเทนต์ละครโดยช่อง
3 ในฐานะผู้นำตลาดละครคุณภาพของประเทศไทย และ JKN ผู้ในฐานะนำการธุรกิจการนำคอนเทนต์ต่างประเทศมาสู่เมืองไทย
และนำคอนเทนต์คุณภาพของไทยสู่ต่างประเทศ จะร่วมกันนำละครช่อง 3 เปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ
โดยทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงให้ JKN เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายงานละครช่อง 3 ในต่างประเทศซึ่งในล๊อตแรก มีละครยอดฮิตเตรียมส่งถึง
70 เรื่องสำหรับละครที่นำร่องจัดจำหน่ายในครั้งแรก
ล้วนแต่เป็นละครที่มีความโด่งดังเป็นที่โปรดปรานในหมู่ผู้ชมชาวไทยทั่วประเทศอยู่ในกระแสนิยมตลอดมาจนปัจจุบัน
อาทิเช่น สามีตีตรา, ทรายสีเพลิง, รอยฝันตะวันเดือด, ลมซ่อนรัก,
สองหัวใจนี้เพื่อเธอ, กำไลมาศ, เพลิงนารี, และ นาคี เป็นต้น และเชื่อว่าละครในล๊อตแรกก็จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมในต่างประเทศเช่นกัน
ความร่วมมือนี้ช่อง 3 โดย
BEC World ได้ให้ JKN เป็นผู้มีสิทธิ์ในการจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครครอบคลุมทุกประเทศในโลกซึ่งเป็นตลาดใหม่
ที่คอนเทนต์ของช่อง 3 ยังไม่เคยจำหน่าย โดยยกเว้นประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ฮ่องกง มาเก๊า กัมพูชา เวียดนาม พม่า เพราะเป็นตลาดที่ช่อง
3 ได้มีตลาดละครออกอากาศอยู่แล้ว โดยความร่วมมือนี้จะเน้นการเปิดตลาดละครใหม่เพิ่มเติม
ซึ่งยังมีโอกาศอีกมากมายในหลายประเทศ เพราะยังเชื่อว่าเม็ดเงินสำหรับคอนเทนต์ดี ๆ
ยังมีอยู่ในตลาดต่างประเทศเหล่านั้น ดังนั้นทั้งสองบริษัทจึงมั่นใจว่าละครที่นำออกจำหน่ายจะเป็นที่นิยมของฐานผู้ชมในต่างประเทศอย่างแน่นอน
ประชุม มาลีนนท์ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “สิ่งที่ช่อง
3
เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด คือการไม่หยุดพัฒนาคอนเทนต์
เพราะคอนเทนต์เป็นสิ่งที่ดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาเข้ามา และคอนเทนต์ที่ดียังเป็นสิ่งที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศต้องการ
จึงถือเป็นโอกาสดีที่เกิดความร่วมมือในครั้งนี้กับทาง JKN ในการส่งออกละครไทยไปในต่างประเทศที่เป็นตลาดใหม่
ๆ เพิ่มเติมจากตลาดที่ช่อง 3 ได้ทำการขายอยู่แล้ว และการบรรลุข้อตกลงครั้งนี้
ทางเรามีความมั่นใจในประสบการณ์และคอนเนคชั่นของ JKN ในธุรกิจการนำคอนเทนต์ไปจำหน่ายในต่างประเทศ
จึงเชื่อว่าจะเป็นการเปิดตลาดละครไทยให้กว้างไกลไปอีกหลายประเทศ เสริมเติมจากประเทศที่ช่อง
3 ได้เปิดตลาดไปก่อนหน้านี้
การส่งออกคอนเทนต์ละครของช่อง 3 ถือเป็นการขยายฐานผู้ชมไปยังผู้ชมต่างประเทศ
ซึ่งบางคนก็เป็นแฟนละครไทยอยู่บ้างแล้ว และก็จะได้ผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ ทำให้ละครไทยโกอินเตอร์ สร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศซึ่งถือเป็นเม็ดเงินรายได้ก้อนใหม่อีกด้วย”
แอน
จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กล่าวว่า “การขายคอนเทนต์ของประเทศไทยในต่างประเทศที่ผ่านมา
ยังไม่โดดเด่นในระดับสากลที่จะทำให้คนต่างชาติรู้สึกว่า
คอนเทนต์ของประเทศไทยเป็นที่ต้องการแต่ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้คนต่างชาติได้เห็นและยอมรับในคอนเทนต์ไทย
ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงความร่วมมือของ 2 บริษัทเท่านั้น
แต่เป็นการประกาศศักดิ์ศรีของคนไทย ให้คนต่างชาติได้เห็นถึงคุณภาพคอนเทนต์ละครจากประเทศไทย
ซึ่งต้องยอมรับว่าละครของช่อง 3 ถือเป็นเบอร์ 1 ที่คนไทยให้ความยอมรับอยู่แล้ว
ในส่วนของการเปิดตลาด
JKN
ก็มีประสบการณ์ในเรื่องของธุรกิจคอนเทนต์ระดับสากลมายาวนาน 20
ปี เมื่อ JKN และ ช่อง 3 มารวมตัวกัน จึงทำให้คอนเทนต์ไทยที่มีความโดดเด่น กลายเป็นที่ยอมรับระดับเวทีโลก
ซึ่งเป็นมิติใหม่ที่ทำให้คนต่างชาติได้เห็นว่าสินค้าคอนเทนต์ของคนไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก
เรามั่นใจว่าจะนำความภูมิใจกลับมาให้คนไทยอย่างแน่นอน”
สำหรับการแถลงข่าวถึงความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการร่วมกัน
ที่ช่อง 3 ให้ความไว้วางใจมอบหมายให้ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย เป็นตัวแทนในครั้งนี้
นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีระหว่างกันที่จะทำให้ทั่วโลกได้รู้จักและติดตามละครไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านตัวละครอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น