ละครเรื่อง ขิงก็รา ข่าก็แรง
บทประพันธ์. โสภี พรรณราย
บทโทรทัศน์ ภาวิต กำกับการแสดง ประทุม มิตรภักดี
ควบคุมการผลิต สยม สังวริบุตร
            ณิช  อมรเกียรติ์ 
 นักข่าวสาวไฟแรง  เธอเพิ่งเรียนจบนิเทศฯและได้งานเป็นนักข่าวสมใจ  ณิชมีพี่สาวชื่อ ภรณี  ทั้งคู่กำพร้าพ่อ-แม่ตั้งแต่อายุประมาณ 10
กว่าขวบ  สองพี่น้องจึงต้องมาอยู่ในความอุปการะของ
  แม่ชีสุดา  น้องสาวของพ่อ 
แม่ชีสุดานั้นบวชตั้งแต่ยังสาวด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง  แม่ชีพาณิชและภรณีไปอยู่โรงเรียนประจำ  และพยายามส่งเสียให้ดีที่สุด  แต่ก็เป็นภาระแทบจะเกินกำลังของแม่ชีที่ไม่มีรายได้อะไรมากนัก  แม้ทั้งคู่จะเรียนเก่งจนได้ทุนเรียนดีทั้งคู่ทุกปี  แต่เมื่อต้องเรียนระดับอุดมศึกษา     ภรณีก็ตัดสินใจเสียสละให้ณิช  ภรณีเลือกเรียนสายวิชาชีพ  ภรณีทำงานและเรียนไปด้วยเพื่อช่วยส่งเสียให้    ณิชซึ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะนิเทศศาสตร์เรียนจนจบ  ณิชเองก็เรียนไปและทำงานไปด้วยเช่นกัน     
ภรณีนั้นสวยอ่อนหวาน  วันหนึ่งเธอมีโอกาสรู้จักกับ
ไพรุต นักธุรกิจคราวพ่อ  ไพรุตสนใจภรณี    แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วกับ วรกานต์  แต่ชีวิตครอบครัวก็ไม่อบอุ่น  ไพรุตและวรกานต์มีลูกสาวอยู่ในวัยใกล้เคียงกับภรณีชื่อ
เพียงเพ็ญ  ความสัมพันธ์ระหว่างไพรุตและภรณีพัฒนาอย่างรวดเร็ว  ภรณีรักไพรุตและยอมเป็นเมียเขาด้วยความที่ภรณีกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เด็ก  เธอจึงรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขเมื่ออยู่กับไพรุตมากกว่าหนุ่มๆวัยเดียวกัน  นอกจากนั้นเธอคิดว่าไพรุตนั้นรวยมากคงจะช่วยผ่อนภาระในการส่งณิชให้เรียนได้จนจบ  ที่แน่ๆคือความเป็นอยู่ของทั้งคู่ดีขึ้น  ไพรุตเองก็รักและหลงภรณีไม่น้อย  นอกจากความสาวความสวยแล้ว  ภรณียังอ่อนหวานช่างเอาใจปรนนิบัติเขาทุกอย่าง  ต่างกับวรกานต์อย่างลิบลับ  วรกานต์นั้นอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจ  และขาดเหตุผลรวมทั้งขี้หึงอีกต่างหาก  ยิ่งอายุมากวรกานต์ก็อารมณ์ร้ายมากขึ้น  ที่ไพรุตเบื่อและหนักใจก็คือวรกานต์เริ่มติดการพนันเธอสามารถอยู่ในบ่อนได้เป็นวันๆโดยไม่เบื่อ  วรกานต์นั้นไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเพราะพ่อ-แม่ทิ้งมรดกไว้ให้มหาศาล  อีกทั้งไพรุตเองก็เป็นนักธุรกิจที่เก่งและขยัน       ฐานะทางการเงินของครอบครัวนี้จึงมั่นคงมาก  แต่ไพรุตกับเพียงเพ็ญก็อยากให้วรกานต์เลิกเล่นการพนัน    ทั้งคู่รู้ดีว่าการพนันมีแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ  เงินมีมากเท่าใดก็หมดได้ถ้าผีการพนันเข้าสิง  ไพรุตกับเพียงเพ็ญขอร้องจนเหนื่อยวรกานต์ก็ไม่ยอมเลิก   แม้จะเคยถูกตำรวจจับบ่อยครั้งแค่ไหนก็ตาม  เพราะไพรุตก็ต้องตามไปประกันตัวและใช้อิทธิพลทุกอย่างเพื่อปิดข่าว  ทั้งหมดก็เพราะเพียงเพ็ญลูกสาวคนเดียวเท่านั้น  เมื่อไพรุตมีภรณีซึ่งแตกต่างกับวรกานต์ราวฟ้ากับดินเขาจึงรักภรณีมาก  ไพรุตซื้อบ้านหลังเล็กๆน่ารักให้ภรณีอยู่กับณิช     ด้วยความเขี้ยวและเค็มตามประสานักธุรกิจ  ไพรุตไม่ยอมโอนบ้านให้เป็นชื่อของภรณี  เรื่องนี้ณิชเคยนึกหมั่นไส้พี่เขยที่งกทั้งที่รวย  ภรณีเองก็แสนจะน่ารักดูแลเอาใจใส่สารพัด  ด้วยความรักพี่สาวณิชจึงไม่ค่อยชอบไพรุตมากนัก  ทั้งที่รู้ว่าเขามีบุญคุณที่ซื้อบ้านให้ภรณีและเธอได้อยู่กันอย่างสบาย  เมื่อณิชเรียนจบและได้งานทำเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์เล็กๆฉบับหนึ่ง  เธอจึงภูมิใจมาก  ส่วนไพรุตเองก็ไม่ค่อยชอบณิชเช่นกัน    เพราะณิชคล่องแคล่วฉลาดเหมือนจะรู้ทันเขาทุกอย่าง   อีกประการหนึ่งณิชค่อนข้างจะแข็งกระด้าง  เธอชอบใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและกางเกงยีนส์เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน แต่ไพรุตมองเหมือนเป็นผู้ชายมากกว่า      ภรณีเองในฐานะคนกลางหนักใจกว่าใคร  เธอรักไพรุตมากและรู้ว่าณิชนั้นเป็น “สาวมั่น”
อาจจะดูแข็งกระด้างแต่จริงๆแล้วณิชมีเมตตาและอ่อนโยนเสมอกับคนที่ดีกับเธอประเภทใครดีก็ดีด้วย  ใครร้ายก็ร้ายตอบและค่อนข้าง “ปากจัด”   ณิชไม่พูดหยาบคายแต่คำพูดของเธอก็เชือดเฉือนเหน็บแนมให้คู่กรณีต้องขาดสติอาละวาดได้เสมอ  เมื่อหลานสาวในอุปการะโตและดูแลรับผิดชอบตัวเองได้แม่ชีสุดาก็มักเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ  ในเรื่องของภรณีเมื่อภรณีพาไพรุตมากราบเชิงสู่ขอแม่ชีเองไม่สบายใจเพราะไม่อยากเห็นหลานต้องผิดศีล  ทว่าเมื่อภรณีสมัครใจแม่ชีก็รู้ได้ว่าเป็นกรรมของเธอเอง  นอกจากการไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัดแล้ว  ถ้าพอมีเวลาแม่ชีสุดามักจะไปที่โรงพยาบาลโรคจิตเธอไปช่วยดูแลคนไข้ทั้งหมด         มีคนไข้หญิงวัยกลางคนชื่อ
รุ่งทิพย์  ซึ่งดูจะถูกอัธยาศัยกับแม่ชีมากเป็นพิเศษ  โดยปกติแล้วรุ่งทิพย์จะไม่ค่อยพูดกับใครแม้กับหมอและพยาบาล  แต่กับแม่ชีสุดาแล้วรุ่งทิพย์ยอมคุยด้วยนานๆ  รุ่งทิพย์ต้องมารักษาอาการทางจิตก็เพราะความเจ้าชู้ของสามี  รุ่งทิพย์แต่งงานกับ  สารนาถ 
พิเศษพงศ์ 
นักธุรกิจชื่อดัง  มีกิจการเดินเรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวระหว่างประเทศ  ด้วยความที่รุ่งทิพย์เป็นคนจริงจังกับชีวิต  ในช่วงหนึ่งที่สารนาถหลงไปกับความมีชื่อเสียงและเงินทอง  เมื่อร่ำรวยและรูปหล่อสารนาถจึงมีผู้หญิงสนใจมากมาย  แม้จะรู้ว่าเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว  รุ่งทิพย์ทนพฤติกรรมเจ้าชู้ของสามีไม่ไหวเธอจึงปิดกั้นตัวเองไม่พูดจากับใคร       เหม่อลอยอยู่ในโลกของเธอตามลำพัง  สารนาถตกใจและเสียใจมากที่รุ่งทิพย์ต้องเป็นอย่างนี้  เขาหยุดความเป็นเพลย์บอยทุกอย่างส่งรุ่งทิพย์มารักษาตัวอย่างเต็มที่  และเลี้ยง ปวีร์
ลูกชายคนเดียวอย่างสุดความสามารถ     สารนาถมัวแต่มุ่งมั่นทำงานโดยมี วศิน
น้องชายเป็นผู้ช่วยจนกิจการเจริญรุ่งเรือง 
ปวีร์เองก็เรียนจบจากต่างประเทศ  และกลับมาช่วยบิดาทำงานอย่างตั้งใจ  ทั้งสารนาถและปวีร์จึงมาเยี่ยมรุ่งทิพย์น้อยครั้งมาก     ในช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีที่เธอเข้าโรงพยาบาล
 รุ่งทิพย์ปลื้มใจกับปวีร์มากที่สุดเธอมักจะย้ำกับเขาเมื่อเขามาเยี่ยมว่าอย่าเจ้าชู้เป็นอันขาดลูกของเธอต้องเป็นสุภาพบุรุษและไม่เจ้าชู้  ในเรื่องความเกลียดความเจ้าชู้นั้นแม่ชีสุดาทราบดีเพราะเป็นเรื่องที่รุ่งทิพย์พูดซ้ำซาก  แม้อาการด้านอื่นจะดีขึ้นแต่ในเรื่องความฝังใจในความเจ้าชู้ของสารนาถยังฝังใจรุ่งทิพย์เสมอ
            วันหนึ่งณิชต้องอยู่เวรที่โรงพิมพ์เพื่อเตรียมทำข่าวเผื่อมีเหตุการณ์คืนนั้น  ดึกมากแล้วเมื่อ ภัทรา
เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่ามีข่าวใหญ่ให้ณิชมาพบเธอโดยเร็ว  เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงของคนดังระดับประเทศ  ณิชรีบไปทันทีพร้อมกล้องคู่ใจ  ณิชอึ้งเมื่อถึงที่เกิดเหตุรถ 2
คันชนประสานงากันอย่างแรง  รถเบนซ์สีขาวคันหรูยับย่นไปครึ่งคันราวกับกระดาษคนขับตายทั้งคู่  ณิชไปถึงเมื่อหน่วยกู้ภัยเริ่มทำงานแล้ว  เธอถ่ายรูปอย่างรวดเร็วก่อนที่ตำรวจจะมา  ภัทราบอกเธออย่างมั่นใจว่าคนขับรถเบนซ์คือ “สารนาถ  พิเศษพงศ์”  นักธุรกิจคนดัง     ณิชพยายามถ่ายภาพคนขับแต่ก็ยากเต็มทีอีกประการสภาพศพก็ทำให้ดูลำบาก  ณิชเชื่อว่าภัทราจำสารนาถได้     เพราะภัทราเป็นคนที่ชอบอ่านประวัติชีวิตคนดัง
นักธุรกิจ  มหาเศรษฐี   และจำแม่นมากเข้าขั้นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่ง
ณิชเชื่อสนิทใจเธอรีบกลับโรงพิมพ์เขียนข่าวส่งภาพตามหน้าที่อย่างรวดเร็ว
            ที่ “บ้านพิเศษพงศ์”  เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งสารนาถ ปวีร์  และวศินต้องปวดหัวเพราะมีโทรศัพท์มาแสดงความเสียใจ  และถามข่าวตลอดเวลา  สารนาถโกรธมากที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นที่ณิชทำงานอยู่ลงข่าวผิดพลาด  เขาถือว่าทำให้ธุรกิจของเขาต้องได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง  สารนาถสั่งให้ปวีร์จัดการเรื่องนี้โดยเร็วและเฉียบขาดที่สุด  ปวีร์เองก็โกรธมากเช่นกันที่นักข่าวที่ทำข่าวขาดความรับผิดชอบ             เขาติดต่อบรรณาธิการและยื่นคำขาดให้จัดการกับเรื่องนี้  บก.พยายามขอโทษและรับว่าจะรีบลงแก้ข่าวให้โดยเร็วแต่ปวีร์ก็ยังไม่พอใจ  เขาขู่ไปว่าถ้าขืนยังรับนักข่าวอ่อนหัดอย่างนี้หนังสือพิมพ์คงต้องถูกฟ้องรายวันแน่  ปวีร์พูดแกมขู่จน
บก.รับปากว่าจะไล่นักข่าวต้นเหตุออกจากงาน 
ส่วนณิชนั่งรออยู่ที่กองบก.อย่างกระวนกระวายเธอเจ็บใจที่ทำงานพลาดและพร้อมที่จะรับโทษ  ณิชมีเพื่อนรุ่นพี่หลายคนที่เข้าใจและเห็นใจเธอ     ยกเว้น เบญจรัตน์ นักข่าวสาวรุ่นพี่ที่หมั่นไส้ณิชมานาน  และรอโอกาสที่ณิชจะพลาดอย่างนี้อย่างสะใจ     เบญจรัตน์จึงพูดจาเหน็บแนมกระทบกระแทกจนณิชแทบทนไม่ไหว  เบญจรัตน์บอกว่าโทษร้ายแรงอย่างนี้ บก.คงไล่ณิชออกแน่  ณิชใจหาย   แต่เมื่อ บก.บอกเธอว่าเขาจำเป็นต้องไล่เธอออกเพราะปวีร์ลูกชายสารนาถไม่ยอมจบเรื่องและรับคำขอโทษใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะไล่เธอออกจากงาน  ณิชเจ็บใจมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสะใจของเบญจรัตน์  จะอย่างไรก็ตามณิชตัดสินใจจะไปขอโทษสารนาถ  เธอพร้อมจะรับผิดชอบในการกระทำของเธอเสมอ  เย็นวันนั้นณิชจึงไปดักรอสารนาถที่หน้าบ้าน  เมื่อรถเบนซ์สีขาวคันหรูแล่นมาณิชก็
กระโดดขวางหน้าทันที  ปวีร์ลงจากรถโดยที่สารนาถและวศินอยู่ในรถ  เมื่อปวีร์รู้ว่าสาวห้าวทอมๆคนนี้ชื่อณิชเขาก็ไม่ฟังอะไรอีก  เขาไล่เธอด้วยถ้อยคำรุนแรงจนณิชโกรธย้อนกลับแรงๆบ้าง  ณิชโกรธมากขึ้นเมื่อปวีร์กลับขึ้นรถและขับรถเข้าบ้านอย่างไม่สนใจเธออีก  ณิชโกรธที่ปวีร์ทำเหมือนเธอไม่ใช่คน  เรื่องดูหมิ่นเกียรติศักดิ์ศรี  และเคารพความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันนี้   ณิชถือมาก  
เธอจะโต้ตอบกลับรุนแรงทุกครั้งที่ถูกทำเหมือนดูถูก  วันรุ่งขึ้นณิชไปขอพบสารนาถหรือปวีร์ที่บริษัทฯ  แต่เลขาของทั้งคู่ไม่ยอมให้พบ     เพราะปวีร์สั่งห้ามอย่างเด็ดขาด  ณิชรออย่างอดทนที่มุมรับแขกหน้าห้องทำงานของสารนาถและปวีร์     ระหว่างรอเธอเห็นไพรุตมากับเพียงเพ็ญ  เสียงพูดคุยของทั้งคู่ทำให้ณิชรู้ว่าเพียงเพ็ญเป็นลูกของไพรุต           ณิชมองเพียงเพ็ญอย่างนึกชมที่หญิงสาวแต่งตัวเก๋ดูเป็นสาวหวานและมีบุคลิกมั่นใจ  ไพรุตแยกไปพบสารนาถ     ส่วนเพียงเพ็ญเดินเข้าห้องปวีร์อย่างคุ้นเคย  ณิชนั่งรออย่างอดทนแม้เลขาของปวีร์จะมาบอกเธอว่าให้กลับไปก่อนเพราะปวีร์คงไม่เสร็จธุระง่ายๆ  แต่ณิชปฏิเสธ 
ในห้องทำงานของสารนาถ  ไพรุตถามเรื่องข่าวหนังสือพิมพ์อีกทำให้สารนาถโมโหบอกว่าปวีร์จัดการเรียบร้อยแล้ว  นักข่าวชื่อณิชถูกไล่ออกแต่ก็พยายามมาพบเขา  ซึ่งสารนาถและปวีร์คิดว่าคงมาขอร้องให้ช่วยเรื่องงานซึ่งทั้งสารนาถและปวีร์ไม่ต้องการให้ณิชมาวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีก  
ชื่อของณิชทำให้ไพรุตเอะใจว่าจะเป็นน้องของภรณี
            ส่วนปวีร์และเพียงเพ็ญนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นที่รู้กันทั่วไป    ทั้งบริษัทฯและแวดวงไฮโซว่าเป็นแฟนกัน  เพียงเพ็ญรักปวีร์มากและมั่นใจว่าเขาก็รักเธอเช่นกันแม้ปวีร์จะไม่เคยบอกรักเลย  ทั้งคู่คุยกันอยู่นานจนถึงเวลาอาหารกลางวัน  ปวีร์จึงชวนเพียงเพ็ญเดินออกมาหาสารนาถเพื่อรับออกไปกินข้าวเพียงเพ็ญคลอเคลียร์ปวีร์ไม่ห่างเหมือนจะประกาศให้สาวๆเลขาหน้าห้องรู้ว่าเธอเป็นแฟนของปวีร์  ก่อนถึงห้อง      สารนาถณิชฉวยโอกาสเดินมาหาปวีร์อย่างค่อนข้างจะจู่โจม  เธอกลัวว่าจะพลาดโอกาสได้พบเขาการพรวดพราดเข้ามาของณิชทำให้ทั้งคู่ตกใจ  ปวีร์โกรธณิชและไล่เธออีกอย่างรุนแรง  เพียงเพ็ญมองณิชที่แต่งตัวตามสไตล์ถนัดคือเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์อย่างดูถูกว่าเธอเป็นนักข่าวกระจอกจริงๆ  ปวีร์ยิ่งเสียงดังมากขึ้นเมื่อ   ณิชไม่ยอมไปง่ายๆเธอพยายามพูดกับปวีร์อย่างใจเย็นและขอให้เขาฟังเธอบ้าง  ทว่าปวีร์ไม่ยอมแถมยังสั่งให้ รปภ. มาลากตัวเธอออกไปจากบริษัทฯอีกต่างหาก  การกระทำที่รุนแรงของปวีร์ยิ่งทำให้ณิชเกลียดและอยากเอาชนะมากขึ้นอีก  เย็นนั้นไพรุตแวะมาหาภรณี  เมื่อพบณิชเขาพูดดูถูกกึ่งตำหนิในความดื้อและการทำงานที่สะเพร่าของเธอแถมยังซ้ำเติมว่าการที่เธอถูกไล่ออกจากงานนั้นเหมาะสมแล้ว  คำพูดของไพรุตยิ่งทำให้ณิช   ยิ่งแค้น 
เธอขยับปากจะตอบโต้เขาบ้างทว่าเมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจ
และแววตาขอร้องของพี่สาวณิชก็ตัดใจเดินหนีเข้าห้องส่วนตัว  เธอไม่อยากให้ภรณีต้องเสียใจหรือมีเรื่องทะเลาะกับไพรุตเพราะเธอ  ณิชรู้ว่าภรณีรัก    ไพรุตมาก 
เวลาผ่านไปปวีร์ดีใจที่ณิชไม่ได้ตามตอแยหรือวุ่นวายกับเขาและบิดาอีก  ปวีร์ไม่รู้ว่าณิชนั้นเป็นคนที่ดื้อ  มุ่งมั่น  
และเอาจริงมากแค่ไหน   
เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้วเธอต้องทำให้ได้ 
ณิชไปสืบจากภัทราจนรู้ว่า   
สารนาถกับปวีร์ชอบมาออกกำลังที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งทุกวันหยุดดังนั้นเช้ามืดวันเสาร์ณิชในชุดกีฬาจึงไปซุ่มรออยู่ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะแห่งนั้น   ปวีร์พาสารนาถมาจริงๆ  ตอนแรกปวีร์และสารนาถวิ่งเบาๆไปด้วยกันสักพักหนึ่งปวีร์ก็เร่งความเร็ววิ่งนำหน้าบิดาไป  สารนาถนั้นอายุมากแล้วแม้จะแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกันแต่ก็สู้ลูกชายไม่ได้    ณิชเดินแกมวิ่งมาห่างๆเมื่อเห็นว่าปวีร์วิ่งห่างสารนาถไปไกลมากแล้ว  ณิชก็วิ่งขึ้นมาคู่กับสารนาถทันที  ณิชทักสารนาถอย่างสดใส  สารนาถตกใจที่จู่ๆณิชก็วิ่งมาใกล้เขาหยุดวิ่งและมองเธออย่างรำคาญ  ทว่าณิชทำให้เขาแปลกใจมากขึ้นเมื่อเธอบอกว่าเธอมาดักรอเขาเพื่อจะขอโทษที่ลงข่าวผิดพลาด    ทำให้เขาเสียหาย  ณิชไหว้สารนาถอย่างอ่อนโยนและเรียบร้อยผิดกับท่าทางห้าวและเปรียวที่สารนาถเคยพบ     ท่าทางณิชดูจริงใจจนสารนาถเชื่อและยอมให้อภัย  เธอก็สบายใจ ณิชทำท่าจะวิ่งจากไปแต่สารนาถกลับชวนคุยว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาและปวีร์ชอบมาที่นี่  ณิชยิ้มให้อย่างแจ่มใสตาเป็นประกาย    ก่อนจะบอกว่าอาชีพของเธอคือนักข่าว  เรื่องแค่นี้ถ้าทำไม่ได้เธอก็ไม่ควรเป็นนักข่าวอีกต่อไป  ณิชเอ่ยปากลาอีกครั้ง  ทว่าอะไรบางอย่างในตัวณิชทำให้สารนาถนึกเอ็นดูเขาชวนเธอวิ่งเบาๆต่อไปด้วยกันณิชทำตามอย่างดีใจ    เธอถือว่านี่คือการยอมรับคำขอโทษและให้อภัยเธออย่างแท้จริง  ณิชรักษาจังหวะวิ่งให้พอดีกับสารนาถและคอยชำเลืองดู    เผื่อสารนาถจะเหนื่อยเกินไป  เธอดูแลเขาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง 
ส่วนปวีร์เมื่อรู้สึกตัวว่าวิ่งห่างจากบิดามากเกินไปเขาก็วิ่งย้อนกลับมาด้วยความเป็นห่วง  ภาพของณิชที่วิ่งคู่อยู่กับสารนาถทำให้ปวีร์โกรธขึ้นมาอีก    ในสายตาของเขาแล้วณิชคือตัวป่วน  ตัวอันตราย  
สำหรับเขาและบิดา  ปวีร์วิ่งกลับมาหาสารนาถด้วยสีหน้าบึ้งตึง  เมื่อถึงตัวสารนาถณิชก็ยิ้มยั่วปวีร์อย่างผู้ชนะก่อนจะหันไปลาสารนาถอีกครั้ง  พูดยิ้มๆว่าคราวนี้คงต้องไปจริงๆก่อนที่ปวีร์จะจับเธอหักเป็นท่อนๆ   ณิชวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วปวีร์ทำท่าจะวิ่งตามไปเอาเรื่องกับเธอ    แต่สารนาถกลับห้ามไว้  สารนาถดูอารมณ์ดีจนปวีร์แปลกใจ  สารนาถบอกปวีร์ว่าเข้าใจณิชผิดไปจริงๆแล้ว  ณิชเพียงต้องการขอโทษเท่านั้น 
เขาชมณิชให้ปวีร์ฟังอีกว่าณิชเป็นคนที่มุ่งมั่น  เอาจริงเอาจังรับผิดชอบ      เกินอายุ 
ปวีร์ฟังอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ 
ระหว่างที่ณิชตกงานเธอจึงมีเวลาไปกราบแม่ชีบ่อยขึ้น  แม่ชีจึงชวนณิชไปโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อทำบุญ  แม่ชีบอกว่าเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง  และตัวณิชจะได้รู้สึกดีขึ้นเมื่อพบพวกเขาณิชตามแม่ชีไปอย่างเต็มใจ  ระหว่างที่แม่ชีติดต่อกับเจ้าหน้าที่ณิชนั่งรออยู่มุมหนึ่งมองบรรยากาศทั่วๆไป  ภาพของคนไข้ที่นั่งเหม่อหรือนั่งพูดคนเดียวเหมือนมีโลกส่วนตัวอย่างสนใจ   ณิชนั่งเพลินจนเห็นรถเบนซ์สีขาวที่คุ้นตาแล่นเข้ามาในโรงพยาบาล  เธอจำได้ว่าเป็นรถของสารนาถณิชหลบไปแอบมองจนเห็นว่าทั้งสารนาถและปวีร์มาด้วยกันวิญญาณนักข่าวเข้าสิงทันที  เธอแอบเดินตามทั้งคู่ไปจนถึงห้องพักของรุ่งทิพย์  สารนาถ 
ปวีร์  และหมอเข้าไปในห้อง  ณิชรีบไปดูชื่อคนไข้อย่างว่องไว  เสียงพูดคุยในห้องทำให้ณิชงง  เพราะเสียงรุ่งทิพย์ไล่สารนาถอย่างเกรี้ยวกราดเกลียดชัง  ขณะที่สารนาถพยายามง้อ    เสียง 
ปวีร์ที่เรียกรุ่งทิพย์ว่าแม่ทำให้ณิชยิ่งงง  รุ่งทิพย์เรียกปวีร์ว่าลูกอย่างสุดรักสุดหวงเธอเขย่งดูตรงช่องประตูอย่างสนใจ  เธอจำได้ว่าสารนาถเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นม่ายภรรยาตายไปหลายปีแล้วก็ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้หญิงในห้องนี้เป็นใคร  ณิชเขย่งดูอย่างสนใจจังหวะพอดีที่รุ่งทิพย์เกรี้ยวกราดไล่สารนาถอีก  ปวีร์จึงพาสารนาถออกมา   ณิชรีบหาทางหลบอย่างตกใจแต่ไม่ทัน  ปวีร์และสารนาถเห็นเธอเต็มตา  ปวีร์โกรธอย่างบอกไม่ถูก     ยิ่งเห็นกล้องถ่ายรูปและเทปในมือของณิชปวีร์และสารนาถเข้าใจผิดว่าณิชแอบตามเขามา  ปวีร์ก้าวเข้ามาหา ณิชอย่างพร้อมจะอาละวาด  ณิชจึงแกล้งยกกล้องถ่ายรูปขึ้นเธอกดแฟลชเฉยๆติดๆกันปวีร์และสารนาถยกมือปิดหน้าให้ชุลมุนไปหมด  ณิชฉวยโอกาสวิ่งหนีแต่ปวีร์ก็ตามจนทัน  เขาขอฟิล์มจากเธออย่างคุกคาม  ข่มขู่      ณิชซึ่งเกลียดปวีร์อยู่แล้วก็ยิ่งยั่วและไม่ยอมให้  ปวีร์จึงเข้าแย่งกล้องจากมือณิชทันที  ทั้งคู่ยื้อยุดฉุดกระชากกันสุดฤทธิ์  ณิชสู้แรงปวีร์ไม่ได้  เธอถูกเขาผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นกระแทกอย่างแรงณิชเจ็บร้าวไปทั้งหลัง    
แต่ก็กัดฟันลุกขึ้นโวยวายเมื่อเห็นปวีร์เปิดกล้องกระชากม้วนฟิล์มและดึงออกมาอย่างสะใจ  ปวีร์มองณิชอย่างเกลียดชังและสะใจก่อนจะโยนกล้องถ่ายรูปคืนให้เธอ  ณิชโกรธจนอยากจะฆ่าปวีร์ให้ตายคามือ  เธอแค้นมากและหาทางแก้แค้นปวีร์อย่างชนิดที่ปวีร์ต้องจำไปจนตาย  รุ่งขึ้นณิชไปขอพบปวีร์เมื่อเลขาทำท่าจะไม่ให้พบ     เธอก็บอกเลขาให้ไปบอกปวีร์ว่าถ้าไม่ยอมพบเธอในวันนี้
“ตระกูลพิเศษพงศ์” ได้ดังทั้งเมืองแน่  ณิชเตรียมปะทะกับปวีร์อย่างใจเย็นคำขู่ของเธอได้ผล  ปวีร์ยอมให้เธอพบเขา  เมื่อพบกันปวีร์ขอซื้อข่าวเรื่องมารดาทันที    แต่ณิชกลับยั่วยอกย้อน  บอกว่าเธอยังไม่ได้คิดจะเขียนตอนนี้  แต่ที่มาก็เพื่อขอค่าชดใช้สำหรับฟิล์ม  ปวีร์กัดฟันเปิดกระเป๋าหยิบเงินโยนให้เธอประมาณ
500 บาท  แต่ณิชไม่ยอมเธอต้องการ
5,000.-  ปวีร์กัดฟันหยิบให้และพยายามรวบรัดว่า  5,000.- นี้เป็นค่าข่าว  ทว่าณิชไม่ยอมรับปาก  เธอยั่วโมโหจนปวีร์แทบคลั่ง  ณิชไป  กราบแม่ชีอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ  เธอส่งเงิน 5,000.-
ให้แม่ชีและบอกว่าเป็นเงินบริจาคซ่อมหลังคาอุโบสถ     ณิชขอให้แม่ชีออกใบอนุโมทนาบัตรในนามของ “ปวีร์  พิเศษพงศ์”   เรื่องที่ณิชบังเอิญพบกับสารนาถและ  ปวีร์ที่โรงพยาบาลโรคจิตกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่น่าเป็นไปได้   สารนาถกลัวว่าณิชจะทำข่าวจึงบอกไพรุตซึ่งเคยหลุดปากบอกเขาว่ารู้จักณิชให้ไปของร้องณิชว่าอย่าทำข่าวเรื่องนี้  ไพรุตไปขู่ภรณีเรื่องจึงวนกลับมาหาแม่ชีสุดาอีกจนได้  แม่ชีให้ณิชมาพบและพาเธอไปพบกับรุ่งทิพย์ทั้งที่คราวก่อนณิชยังไม่มีโอกาสพบกับ      รุ่งทิพย์ด้วยซ้ำไป  สภาพของรุ่งทิพย์ทำให้ณิชอึ้งด้วยความสงสารจับใจ
 แม่ชีปล่อยให้ณิชคุยกับรุ่งทิพย์ตามลำพัง  ด้วยความอ่อนโยนและมีเมตตาอยู่ในใจอยู่แล้วณิชจึงคุยกับรุ่งทิพย์อย่างอ่อนโยน  อบอุ่น เธอหาเรื่องสนุกๆมาคุยให้รุ่งทิพย์ฟังจนรุ่งทิพย์ติดใจ  อารมณ์แจ่มใสเป็นพิเศษ รุ่งทิพย์บอกให้ณิชมาหาเธอบ่อยๆ     ระหว่างนั่งรถกลับวัดกับแม่ชี  ณิชเงียบขรึมอย่างผิดปกติ เมื่อถึงวัดณิชบอกแม่ชีว่าเธอสงสารรุ่งทิพย์มาก
    และจะไม่ทำข่าวเรื่องรุ่งทิพย์เด็ดขาด  การที่ได้คุยกับรุ่งทิพย์ทำให้ณิชเกลียดสารนาถและปวีร์มากขึ้นไปอีก     เมื่อรุ่งทิพย์เล่าให้เธอฟังว่า 2
พ่อลูกไม่ค่อยจะมาเยี่ยมเธอ  ณิชเข้าใจดีว่ารุ่งทิพย์ขาดความรักความอบอุ่นทางใจโดยเฉพาะจากสามีและลูกชาย  เวลาผ่านไปณิชไปเยี่ยมรุ่งทิพย์แทบทุกอาทิตย์  ความช่างคุยและอ่อนโยนของณิชทำให้อาการของรุ่งทิพย์ดีขึ้นเรื่อยๆจนเรียกได้ว่าสามารถกลับไปอยู่บ้านได้  สารนาถและปวีร์รู้ข่าวจากหมอที่รักษารุ่งทิพย์อย่างดีใจ  ทว่าเมื่อสารนาถและปวีร์ไปรับเข้าจริงๆรุ่งทิพย์กลับไม่ยอมกลับบ้าน      ณิชแวะไปเยี่ยมตามปกติพร้อมหนังสือธรรมะจากแม่ชี  ณิชชะงักเมื่อเห็นสารนาถและปวีร์อยู่ในห้อง  ณิชกำลังจะหลบทว่ารุ่งทิพย์เห็นเสียก่อน  เธอเรียกณิชมาหาอย่างคุ้นเคยและดีใจ  ปวีร์ตะลึงมองภาพรุ่งทิพย์กอดณิชด้วยความรักและเอ็นดู  เขานึกว่าฝันไปเพราะณิชเองก็ดูอ่อนโยนกับรุ่งทิพย์ราวกับเป็นคนละคนกับนักข่าวสาวห้าวจอมบู๊
จอมกวนที่เขารู้จัก  ตกลงวันนั้นรุ่งทิพย์ไม่ยอมออกจากโรงพยาบาลเธอคงยืนยันว่าเกลียดสารนาถ  คำพูดของรุ่งทิพย์ทำร้ายจิตใจของสารนาถมากเขารู้สึกผิด  และอยากรับรุ่งทิพย์กลับมาอยู่บ้าน     สารนาถให้ปวีร์ขอร้องให้ณิชช่วย  ปวีร์ฝืนใจทำตามคำขอของบิดา  ทว่าณิชปฏิเสธไม่ใช่เพราะเล่นตัว        เธออยากให้สารนาถและปวีร์พิสูจน์ความรัก  ความจริงใจให้รุ่งทิพย์รู้ด้วยตัวเองมากกว่า  ทว่าปวีร์ไม่เข้าใจ    ทั้งคู่ทะเลาะกันอีกจนได้ทั้งที่ปวีร์อุตส่าห์เลือกสถานที่ในการคุยธุระสำคัญเป็นร้านอาหารหรู   บรรยากาศดี     ตัวณิชเองก็แต่งตัวสวยน่ารักดูเผินๆทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวคู่รักที่เหมาะสมกันมาก  ปวีร์โชคไม่ดีที่เบญจรัตน์บังเอิญมาพบเข้าเธอเข้าใจผิดปวีร์อย่างอยากรู้อยากเห็น
 ณิชจึงแกล้งทำยั่วประสาทด้วยการทำสวีทกับปวีร์เป็นพิเศษ  เธอปรามปวีร์ด้วยสายตาว่าถ้าเขาขัดคอเธอเรื่องของรุ่งทิพย์เป็นอันจบกัน  ปวีร์แทบคลั่งเพราะรู้ว่าเบญจรัตน์ต้องบอกเพียงเพ็ญแน่ๆ 
            วันรุ่งขึ้นเพียงเพ็ญมาพบปวีร์และเลียบเคียงถามเรื่องณิชกับปวีร์  เขาปฏิเสธและบอกเพียงว่าเขามีธุระสำคัญจะพูดกับณิชเท่านั้น  เมื่อณิชไม่ยอมตกลงกับปวีร์  สารนาถจึงมาดักพบณิชเองที่บ้านเขาขอร้องให้เธอช่วยและยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นความผิดของเขา  แต่เขาก็เลิกหมดเมื่อรุ่งทิพย์ป่วย  ณิชใจอ่อนยอมช่วยพูดกับรุ่งทิพย์  แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จ  สารนาถดีใจมากเขามั่นใจว่าณิชทำได้  เมื่อณิชไปพบรุ่งทิพย์ชวนคุยและชวนเธอกลับบ้าน  รุ่งทิพย์ไม่ยอมท่าเดียวจนณิชเกิดความคิดใหม่ชวนรุ่งทิพย์ไปอยู่บ้านเธอ  รุ่งทิพย์ตกลงทันที  ณิชคิดว่าทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป  เธอวางแผนให้สารนาถและปวีร์มาเยี่ยมรุ่งทิพย์บ่อยๆสักวันหนึ่งรุ่งทิพย์คงยอมกลับบ้านพิเศษพงศ์  ณิชติดต่อบอกสารนาถเขายอมรับตามข้อตกลง  การที่รุ่งทิพย์ยอมออกจากโรงพยาบาลสารนาถก็พอใจแล้วการเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับณิช  ทำให้ณิชบอกให้สารนาถขออนุญาตไพรุตก่อน      สารนาถจึงรู้ว่าภรณีพี่สาวของณิชเป็นเมียน้อยของไพรุต  ในวันที่สารนาถและปวีร์ไปรับรุ่งทิพย์นั้นณิช       ไปด้วย 
ปวีร์มองภาพณิชกับรุ่งทิพย์อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมมารดาจึงติดใจอะไรณิชนักหนา  ปวีร์เข้าใจว่าณิช ประจบประแจงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง  ภรณีเกร็งเล็กน้อยเพราะรู้ว่ารุ่งทิพย์เกลียดผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยมาก  ณิชพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ  เธอคอยปลอบภรณีให้เป็นตัวของตัวเองณิชมั่นใจว่าความอ่อนโยน   อ่อนหวานของภรณีต้องชนะใจรุ่งทิพย์ได้  ส่วนรุ่งทิพย์พอใจและมีความสุขมากเธอเข้ากับภรณีได้ดี  ถึงแม้ได้รู้ความจริงในวันหนึ่งโดยบังเอิญ  ปวีร์และสารนาถเครียดเพราะกลัวว่ารุ่งทิพย์จะช็อค  ปวีร์ขู่ณิชว่าถ้ารุ่งทิพย์เป็นอะไรไปเธอต้องรับผิดชอบณิชเองก็ใจสั่น  ลุ้นว่ารุ่งทิพย์จะรับสถานการณ์ได้หรือไม่ทว่ารุ่งทิพย์กลับปรับตัวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ  เธอยอมรับและเข้าใจภรณีเพราะความดีของ 2
พี่น้อง ความน่ารักของภรณีและณิชที่ดูแลเธออย่างดีทำให้รุ่งทิพย์เกลียดภรณีไม่ลง  ตรงกันข้ามเธอกลับสงสารและเห็นใจภรณีด้วยซ้ำไป ณิชยังคงสนุกกับงานและกลับมาดูแลรุ่งทิพย์ทุกเย็น  ถ้าปวีร์และสารนาถมาเธอจะหลบให้พ่อ-แม่-ลูก
ได้อยู่ด้วยกัน  เพียงเพ็ญรับรู้เรื่องรุ่งทิพย์ไปอยู่กับณิชอย่างร้อนใจ
 เธอไม่ต้องการให้ปวีร์และณิชใกล้ชิดกัน       เพียงเพ็ญพยายามให้ปวีร์พาไปหารุ่งทิพย์  แต่ปวีร์เกรงใจไพรุตจึงไม่ยอมพาไป  ส่วนวรกานต์ก็ติดบ่อนมากขึ้น  เพียงเพ็ญพยายามให้มารดาเลิก  วรกานต์กลับมีเงื่อนไขว่าไพรุตเลิกกับเมียน้อยได้เมื่อไหร่เธอก็จะเลิกเล่นไพ่   วันหนึ่งเธอไปเล่นการพนันตามปกติเป็นวันที่เธอไม่มีโชคเลยวรกานต์เสียเงินจนหมด
ทว่ายังไม่ยอมกลับบ้าน  เธอวนเวียนดูการเล่นการพนันประเภทต่างๆอย่างมันมือและอยากเล่น  ถ้ามีเงินวรกานต์คงไม่ยอมพลาด  เสียงเฮฮาจากวงไพ่วงหนึ่งทำให้วรกานต์สนใจ   เธอเดินเข้าไปดูและตกใจเมื่อพบวศินนั่งเล่นไพ่อย่างสนุกสนาน  ชิพตรงหน้าของเขากองโต วศินกำลังมือขึ้นเขาเล่นชนะทุกตาจนวงไพ่ต้องเลิกเพราะเขาเสียไพ่จนหมด  วรกานต์มองวศินอย่างไม่เชื่อตา 
เธอพบวศินหลายครั้งเธอจำได้ว่าเขามีบุคลิกที่สุภาพ  เนี้ยบ  
พูดจาเรียบร้อย   ขยันทำงานซึ่งต่างจากตรงนี้ราวกับคนละคน  ในบ่อนวศินคือนักพนันชั้นเซียนเลยทีเดียววศินเก็บชิพบนโต๊ะเพื่อไปแลกเงินเขามีความสุขมากคืนนี้  แต่เมื่อหันกลับมาวศินก็พบวรกานต์ยืนมองอยู่  เธออยู่ใกล้เขามากจนวศินหลบไม่พ้น   วรกานต์เป็นฝ่ายทักวศินก่อน  ทั้งคู่คุยกันเล็กน้อยและเหมือนจะรู้ดีว่าเรื่องการพนันในบ่อนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับ  ส่วนเพียงเพ็ญรุ่มร้อนเมื่อปวีร์ไม่ยอมพาเธอไปพบรุ่งทิพย์     ยิ่งมีแรงยุจากเบญจรัตน์ก็ทำให้เพียงเพ็ญคิดมาก  เธอแอบขับรถตามปวีร์และสารนาถไปในวันหนึ่งจนรู้ที่อยู่ของรุ่งทิพย์  ทว่าก่อนกลับเธอเห็นไพรุตบิดาของเธอมาที่บ้านนี้ด้วย  เพียงเพ็ญอึ้งเมื่อเห็นภรณีเดินออกมารับไพรุต  และไพรุตเดินโอบภรณีเข้าบ้านไปด้วยกัน  เพียงเพ็ญขับรถกลับบ้านอย่างสับสน บิดาของเธอรู้เห็นเป็นใจกับณิชและปวีร์ด้วยหรืออย่างไร  ท่าทางของไพรุตกับภรณีชัดเจนว่าภรณีนี่เองคือเมียอีกคนของบิดา     คืนนั้นเพียงเพ็ญนั่งรอไพรุตอย่างอดทนจนดึก  เพียงเพ็ญถามบิดาอย่างจริงจังจนไพรุตต้องยอมรับว่าภรณีคือเมียของเขาอีกคนจริงๆ  เพียงเพ็ญนึกสงสารวรกานต์เพราะเมื่อเทียบกันแล้วภรณีได้เปรียบในทุกกรณี       เพียงเพ็ญรับปากไพรุตว่าจะไม่บอกวรกานต์เรื่องที่อยู่ของภรณี
            วันรุ่งขึ้นเพียงเพ็ญขับรถไปบ้านของภรณีเพื่อพบกับรุ่งทิพย์นั่นเอง  ภรณีตกใจเมื่อเห็นเพียงเพ็ญ       ถึงไม่เคยพบกันมาก่อนแต่ไพรุตก็มักจะเอารูปของเพียงเพ็ญและวรกานต์มาให้เธอดู  เธอรู้ว่าไพรุตรักและปลื้มในตัวเพียงเพ็ญมาก  ภรณีต้อนรับเพียงเพ็ญอย่างอ่อนหวานตามนิสัย  ส่วนเพียงเพ็ญมีท่าทางดูถูกเมื่อเข้าไปในบ้าน  เห็นการตกแต่งบ้านอย่างเรียบง่าย   มีรสนิยม  
เธอก็ยิ่งหมั่นไส้   
เธอวางอำนาจกับภรณีพูดจาข่มขู่  
เหน็บแนม   เสียงดัง   โดยไม่รู้ว่ารุ่งทิพย์เดินลงมาจากห้องพักและได้ยินทุกคำ   รุ่งทิพย์สงสารภรณีที่โดนต่อว่าอย่างรุนแรง จึงเข้ามาช่วย    ส่วนเพียงเพ็ญเมื่อเห็นรุ่งทิพย์ก็มีท่าทางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
เธอปรับท่าทีเป็นกุลสตรีผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน 
และแนะนำตัวว่าเป็นใคร  เธอบอกรุ่งทิพย์ว่าเธอเป็นแฟนของปวีร์      เพียงเพ็ญเงียบกริบเมื่อรุ่งทิพย์พูดเรียบๆว่าปวีร์ไม่เคยบอกเธอว่ามีแฟนแล้ว  และไม่เคยพูดถึงชื่อเพียงเพ็ญเลยสักคำ  ท่าทีห่างเหินมึนตึงของรุ่งทิพย์ทำให้เพียงเพ็ญไม่กล้าเข้ามาใกล้ชิดประจ๋อประแจ๋ด้วย   รุ่งทิพย์แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ต้องการพบเธออีก
 เมื่อเพียงเพ็ญกลับไปแล้วรุ่งทิพย์เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาทันที  เธอบอกภรณีว่าเธอต้องการให้ณิชแต่งงานกับปวีร์  และที่บอกภรณีก็เพราะเห็นว่าภรณีเป็นพี่สาว  ภรณีอึดอัดใจมาก     เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน  ไพรุตรักลูกสาวมากคงไม่อยากเห็นลูกสาวผิดหวังแน่นอน       และยังณิชอีกซึ่งประกาศตัวเป็นศัตรูกับปวีร์อย่างชัดเจน  ณิชคงไม่ยอมแน่  ทว่ารุ่งทิพย์ยืนยันว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยแน่นอน     
            เย็นวันนั้นณิชอยู่เวรที่โรงพิมพ์จึงไม่รู้ว่ารุ่งทิพย์โทรศัพท์ตามปวีร์และสารนาถมาพบด่วน
 เมื่อพบกันรุ่งทิพย์ถามสารนาถว่าต้องการให้เธอกลับไปอยู่บ้านพิเศษพงศ์หรือไม่  สารนาถตอบรับอย่างดีใจ  ปวีร์เองก็ดีใจที่มารดาจะได้ออกจากบ้านนี้เสียที  รุ่งทิพย์จึงบอกทั้งคู่อย่างเฉียบขาดว่าเธอจะยอมกลับบ้านก็ต่อเมื่อปวีร์แต่งงานกับณิช  ปวีร์โวยวายแต่รุ่งทิพย์ไม่ฟัง  ปวีร์บอกว่าเขามีแฟนแล้วชื่อเพียงเพ็ญ  เขากำลังจะพาเธอมาพบกับรุ่งทิพย์  รุ่งทิพย์กลับบอกว่าวันนี้เพียงเพ็ญมาที่นี่  เธอพบเพียงเพ็ญแล้วและไม่พอใจหญิงสาวมาก  รุ่งทิพย์พูดอย่างมั่นใจว่าเพียงเพ็ญนั้นน้ำนิ่งไหลลึก  ดูอ่อนหวานแต่ร้ายกาจ  เธอชอบณิชมากกว่าที่ใสซื่อและตรงไปตรงมา   ที่สำคัญคือมีความจริงใจ   ถ้าปวีร์ไม่ยอมเธอก็ไม่ยอมกลับเช่นกัน  และจะไปอยู่กับแม่ชีหรือกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งแทน  ระหว่างทางกลับบ้านปวีร์มึนอีกรอบเมื่อสารนาถขอร้องให้ตามใจรุ่งทิพย์
ดังนั้นเมื่อส่งสารนาถแล้วปวีร์จึงนัดเพียงเพ็ญออกมาเที่ยวเพื่อคลายเครียด  เขาดื่มมากจนเพียงเพ็ญแปลกใจ     เพราะปวีร์ไม่เคยดื่มจัดอย่างนี้แต่แล้วปวีร์ก็แทบหายเมา  เมื่อวศินโทรมาตามว่าสารนาถช็อคและอยู่ห้อง I.C.U ปวีร์รีบตามไปโรงพยาบาลทันที   เพียงเพ็ญขอตามไปด้วยแต่เขาไม่ยอม  เมื่อถึงโรงพยาบาลปวีร์รู้ว่าบิดาเป็นโรคหัวใจมานานแล้วอาการค่อนข้างรุนแรง  สารนาถอยากพบรุ่งทิพย์  ปวีร์ลังเลแต่ก็ยอมขับรถมาหามารดาเขาพบณิชและบอกณิชสั้นๆว่าสารนาถเป็นอะไรและอยากพบรุ่งทิพย์มาก  เขาไม่กล้าบอกมารดากลัวเธอตกใจ   ณิชรับปากจะจัดการให้   หญิงสาวค่อยๆบอกรุ่งทิพย์อย่างอ่อนโยนอ่อนหวาน   แต่ก็พร้อมรับสถานการณ์หากรุ่งทิพย์เป็นอะไรไป  ปวีร์กับณิชตกใจเมื่อรุ่งทิพย์ร้องไห้   เมื่อถึงเวลานี้เธอรู้ตัวแล้วว่ายังรักและผูกพันกับสารนาถอยู่มาก  รุ่งทิพย์เร่งให้ปวีร์พาเธอไปโรงพยาบาล  เธอชวนณิชไปด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลณิชรออยู่หน้าห้อง  I.C.U  ปล่อยให้ปวีร์พารุ่งทิพย์ไปเยี่ยมสารนาถ  ปวีร์อยากจะบ้าตายเมื่อทั้งพ่อและแม่ขอร้องแกมบังคับให้เขาแต่งงานกับณิช  ปวีร์มาอาละวาดกับณิชว่าเธอใช้มารยาล่อหลอกให้มารดาหลงใหลเพื่อหวังเป็นสะใภ้เศรษฐี เขาดูถูกเธอมากจนณิชหมดความอดทน
            ส่วนเพียงเพ็ญรู้เรื่องปวีร์กับณิชอย่างโกรธจัด  ดังนั้นก่อนงานแต่งงานเธอจึงให้เบญจรัตน์ลงข่าวว่ารุ่งทิพย์ป่วยเป็นโรคจิตมาก่อน  และโทษว่าเป็นฝีมือของณิชปวีร์โกรธแทบจะฆ่าณิชได้
 และไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น  ขณะที่รุ่งทิพย์และสารนาถไม่เชื่อ   เหตุการณ์บีบคั้นจนณิชต้องตอบแต่งงานกับปวีร์ เพียงเพ็ญตามไปอาละวาดณิชในวันต่อมา 
เท่านั้นยังไม่พอไพรุตยังมาอาละวาดกับภรณีอีก  ณิชโกรธจนถึงที่สุด       เมื่อทั้งปวีร์   เพียงเพ็ญ  
ไพรุต   ดูถูกเธอและทำร้ายจิตใจพี่สาวที่รักณิชจึงตอบโต้ด้วยการตอบรุ่งทิพย์และสารนาถว่าเธอยอมแต่งงานกับปวีร์  รุ่งทิพย์ดีใจมากเธอยอมกลับบ้านพิเศษพงศ์  เตรียมห้องหอให้ลูกชายและลูกสะใภ้คนโปรดอย่างมีความสุข     สารนาถเองก็อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด     เมื่อภรรยาที่รักกลับมาบ้าน     คนที่ทุกข์ที่สุดคือปวีร์    
ส่วนเพียงเพ็ญเสียใจอาละวาดฟูมฟายจนไพรุตทนไม่ได้     เขากลับมาบังคับให้ภรณีไปบังคับณิชให้เลิกล้มเรื่องการแต่งงาน   ยิ่งถูกบีบณิชก็ยิ่งสู้     เธอรั้นจะแต่งงานกับปวีร์ต่อไป  
            ในคืนก่อนวันแต่งงานเพียงเพ็ญใช้มารยาดึงปวีร์ไว้จนดึกเธอให้เขาดื่มจนเมา  และคืนนั้นปวีร์ก็อยู่กับเพียงเพ็ญทั้งคืน   ปวีร์ได้เพียงเพ็ญเป็นเมียเพราะความเมา  เช้ารุ่งขึ้นงานหมั้นต้องล้มเลิกเพราะเจ้าบ่าวหายตัวไป   ณิชแก้ไขสถานการณ์อย่างใจเย็นเมื่อถึงงานเลี้ยงตอนค่ำ  ณิชสวยงามสง่าผิดตาในชุดเจ้าสาว พลางลุ้นระทึกว่าปวีร์จะมาหรือไม่  เธอยิ้มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เมื่อเพียงเพ็ญเดินกอดแขนปวีร์มาส่งให้ที่ห้องพักของคู่บ่าว-สาวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพียงเพ็ญหวังจะทำให้ณิชเจ็บปวด  แต่กลับถูกย้อนกลับอย่างรุนแรงแทน     หลังการแต่งงานเพียงเพ็ญพยายามประกาศตัวเป็นเจ้าของปวีร์จนณิชโมโห  แต่ไม่ร้ายเท่าไพรุตไล่ภรณีออกจากบ้านและทอดทิ้งให้ภรณีอยู่คนเดียว   ณิชจึงตอบโต้ด้วยการชวนปวีร์ไปฮันนีมูนที่สวิตต่อหน้ารุ่งทิพย์และสารนาถซึ่งทั้งคู่พอใจมากจัดการเตรียมการให้ทุกอย่าง  เพียงเพ็ญแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าปวีร์ต้องไปฮันนีมูน เมื่อถึงสวิตณิชแปลกใจที่ปวีร์พาเธอไปพักที่กระท่อมน่ารักในป่าท่ามกลางบรรยากาศสวยงาม  ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างเพื่อน  เริ่มเข้าใจและเห็นความดีความน่ารักของอีกฝ่ายจนณิชยอมเป็นเมียของปวีร์  ความสุขหมดไปเมื่อเพียงเพ็ญตามมา  ปวีร์ต้องพาเพียงเพ็ญไปพักโรงแรมในเมือง  เมื่อกลับมาที่พักณิชก็งอนและเริ่มทะเลาะกันอีก    
            คืนหนึ่งปวีร์เมากลับมาจากการไปดินเนอร์กับเพียงเพ็ญเขาโดนเพียงเพ็ญยุหลายเรื่อง   รวมทั้งเรื่องข่าวของรุ่งทิพย์  ปวีร์เชื่อเพียงเพ็ญทุกอย่าง  ณิชเสียใจและเจ็บปวดมาก  เธอบอกปวีร์ว่าจะกลับเมืองไทย ปวีร์จึงต้องตามกลับมาด้วยเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น    เมื่อภรณีท้องแต่ไพรุตให้ไปทำแท้ง ระหว่างนั้น สารนาถให้ณิชไปช่วยวศินและปวีร์ทำงาน  ณิชทำงานอย่างตั้งใจจนพบว่าวศินทุจริตเรื่องเงิน  เธอตามสืบจนรู้ว่าเขาเล่นการพนันจึงต้องยักยอกเงินบริษัทฯ
ณิชเตือนปวีร์เรื่องวศินแต่ปวีร์ไม่เชื่อกลับหาว่าเธอคิดจะฮุบทรัพย์สินเงินทอง  ณิชได้แต่อดทน  เธอไปพบภรณีจึงรู้ว่าภรณีท้องและไพรุตบีบบังคับให้ทำแท้ง  แถมยังไล่ออกจากบ้าน  ณิชตามไปอาละวาดไพรุต  ขณะที่ตัวเองก็เริ่มผิดปกติว่าจะท้อง  ณิชแพ้ท้องมากขึ้นจนรุ่งทิพย์สงสัย   ณิชแอบไปตรวจและรู้ว่าท้องจริงๆแต่เธอไม่บอกปวีร์   ส่วนเพียงเพ็ญเมื่อใช้ทุกวีถีทางเพื่อให้ณิชเลิกกับปวีร์    ถึงขนาดเอาเงินมาล่อณิชก็ไม่ยอม  เพียงเพ็ญขาดสติพาวรกานต์ไปอาละวาดกับภรณี ชุลมุนกันจนภรณีพลาดตกบันไดลงมาเธอแท้งลูก     ณิชโกรธจัดมากเธอจะเอาเรื่องสองแม่ลูกให้ถึงที่สุด
แต่ภรณีห้ามไว้     วรกานต์และเพียงเพ็ญเองก็ตกใจและสำนึกผิด
ทว่าทุกอย่างสายเกินไป  ส่วนวศินถูกณิชจับได้ว่าแอบขนของหนีภาษี
ณิชขอให้วศินไปสารภาพกับสารนาถเองก่อนที่เบญจรัตน์จะทำข่าวและนำตำรวจมาจับ  วศินทำตามณิช 
ปวีร์จึงได้รู้ว่าณิชเป็นคนดี  ภรณีนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอก็บวชชีและอยู่กับแม่ชีสุดา     ไม่ใยดีทางโลกอีกต่อไป  เธอบอกปวีร์ว่าณิชท้องขณะที่ณิชเจ็บปวดกับเรื่องที่ผ่านมาของปวีร์และเพียงเพ็ญ     เธอจึงขอหย่ากับปวีร์  ส่วนปวีร์เมื่อรู้ว่าณิชจะมีลูกเขาดีใจมากและเริ่มได้คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด     และก็รู้ว่าเขาและเพียงเพ็ญทำร้ายจิตใจณิชมามากเหลือเกิน  ระหว่างณิชและเพียงเพ็ญ  ณิชคือคนที่หวังดีและจริงใจกับครอบครัวเขามากที่สุด  ปวีร์ไม่ยอมหย่าเมื่อณิชทำฤทธิ์มากเข้าเขากลับเอ็นดู  และยอมรับว่าเขารักเธอ  ณิชเงียบไปเพราะตัวเองรู้อยู่แก่ใจนานแล้วว่าเธอรักเขามากเช่นกัน  ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี
ตัวละคร ขิงก็รา ข่าก็แรง
1.  วศิน                อัศวนฤนาท                       แสดงเป็น                      ปวีร์
2. ปภาวดี             ชาญสมอน                              “                               ณิช
3. ริญญารัตน์       วัชรโรจน์สิริ                           “                               เพียงเพ็ญ
4. สาวิตรี             สามิภักดิ์                                 “                               รุ่งทิพย์
5. ดิลก                  ทองวัฒนา                              “                               สารนาท
6. เฉลิมพร           พุ่มพันธ์วงศ์                           “                               ไพรุต
7. มัณฑนา           หิมะทองคำ                             “                               วรกานต์
8. ปราบ               ยุทธพิชัย                                 “                               วศิน
9. อัจฉรา              ทองเทพ                                  “                               แม่ชีสุดา
10. วรัญภรณ์       พัฒน์ช่วย                               “                               ภรณี
11. โอภาภูมิ         ชิตาพัณณ์                               “                               อภิสิทธิ์
12. ฑรัญภัค         เศรษฐีธร                                “                               ภัทรา
13. กุสุมา             ตันสกุล                                   “                               เบญจรัตน์
14. พจนีย์            ใยละออ                                   “                               ศิริพร
15. จารุศิริ            ภูวนัย                                     “                               จิตใจ
16. ภัคสิร์ชา         ราย                                         “                               นกแก้ว
17. ดนยา             รัตนธาดา                                “                               พรรณี
18. พิมพากานต์   วงษ์ศรีแก้ว                             “                               ป้ามด
19. เสาวนีย์          เจิมงามพริ้ง                            “                               แป๋ว
20. ณิชกานต์       ธรรมเจริญ                              “                               ลัดดา
ละคร ขิงก็รา ข่าก็แรง  ตอนแรกพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันจันทร์ ที่ 22 เมษายน 62 เวลา 18.50 น ทางช่อง7HD กด35 













































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น