ขึ้นแท่นนักแสดง! “ช่อง 8” มือไว คว้า “จิมมี่ พิฆเนศ”
ลงละคร “มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า” ภูมิใจละครไทย มีการผลักดันนิยาม กีฬาไม่จำกัดเพศ
กลายเป็นไวรัลดังชั่วข้ามคืน สำหรับ จิมมี่-พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬา Kickboxing ทีมชาติไทย
หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิป โชว์ลีลาการหมุนแบบจริตนางงาม กล้าเปิดเผยตัวตนความเป็น
LGBTQ+ บนสังเวียนซีเกมส์ จนเกิดกระแสดรามา แต่ล่าสุดเจ้าตัวกลับลบคำครหาจากเสียงติเตียนรอบข้าง
พร้อมแสดงจุดยืนตัวตนด้วยความมั่นใจ ล่าสุด
สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 มือไว คว้า จิมมี่ ลงละครเรื่อง “มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า”
ซึ่งงานนี้จิมมี่บอกว่าดีใจมากเพราะเส้นทางนักแสดงก็เป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันและรู้สึกอิ่มเอมใจที่ละครไทย
พยายามผลักดันนิยามคำว่า กีฬาไม่จำกัดเพศ
หลังจากกระแส สโลโมเทิร์นของเราออกไป
ฟีดแบ็ก ที่ได้รับกลับมาเป็นอย่างไรบ้าง /ยอดผู้ติดตาม ทางโซเชียล
เพิ่มขึ้นบ้างไหม หรือมีคนพูดถึงเรายังไง ได้อ่านฟีดแบ็กคอมเมนต์ไหม
กระแสตอบรับดีมากๆ
ต้องบอกเลยว่าเกินคาดจริงๆ ทั้งในประเทศไทยของเรา และโซนของอาเซียน
ตอนนี้ก็ไปถึงระดับยุโรปแล้วด้วย มีกระแสตอบรับที่ปกป้องเรา ในสิ่งที่เราได้ทำไป
มีดรามาที่เกิดขึ้น เป็นพลังบวกให้หนูทุกวันเลย
แต่ถามว่ามันมีข้อความที่เป็นพลังงานลบก็มีนะครับ แต่หนูอ่านไม่ออก (หัวเราะ) แต่หนูก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติเมื่อเรากลายเป็นบุคคลที่ใครก็ต่างรู้จักเรา
ก็จะมีทั้งคนที่รักและเกลียด เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แค่เข้าใจคนกลุ่มนั้น
และโฟกัสคนที่รักเรา ซึ่งตอนนี้ก็มียอดผู้ติดตามเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ส่วนใหญ่คนที่นำคลิปหนูไปแชร์ต่อเขาจะได้ยอดผู้สนใจเพิ่มมากขึ้น
เรามีวิธีจัดการกับคอมเมนต์ที่มาบั่นทอนความรู้สึกเราอย่างไร
ถ้าเราเผลอไปเจอและอ่านเข้า
เราค่อนข้างเข้าใจว่ามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดครับ
ส่วนเรื่องจัดการกับความรู้สึกยังไงนั้นก็คือหนูแทบไม่ต้องจัดการอะไรเลยครับ
มีเหล่าพี่ๆที่คอยซัพพอร์ตหนูเขาจัดการให้เราหมดแล้ว
อย่างมีคอมเมนต์หนึ่งที่แสดงความคิดเห็นในเชิงด่าและเสียดสีเรา
พี่ๆเหล่านี้คอยอยู่ข้างๆเราเขาบอกให้เราอยู่เฉยๆ
และทุกคนก็ช่วยตอบโต้จัดการกับคอมเมนต์แย่ๆจนโพสต์นั้นถูกลบไปเองครับ
และที่สำคัญคนที่มาปกป้องเราเป็นผู้ชายด้วยยิ่งทำให้เรารู้สึกสบายใจและดีใจมากที่ให้การสนับสนุนเราในแบบที่เราเป็น
หรือแม้แต่การสนับสนุนคนที่เป็นเหมือนเราเช่นกัน
เราเลยไม่เอาคอมเมนต์แย่ๆเก็บมาคิดเลย
เราค่อนข้างจะมูฟออนกับสิ่งที่เป็นเรื่องลบๆในชีวิตง่าย
ตอนนี้ ทางช่อง 8 กำลังจะมีละคร
มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า ซึ่ง ในเรื่องจะมี นักมวย ที่เป็น LGBQ+ ด้วย เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ที่ละครไทย
พยายามผลักดัน นำเสนอ ในแง่นี้ ผ่านให้คนดูได้เห็น
รู้สึกดีใจมากๆ ดีใจแทน LGBTQ+ ทุกคนที่ในยุคสมัยนี้ ณ ตอนนี้ ในปี 2023 ทุกๆคนเปิดโอกาสทุกๆคนเปิดกว้าง
ให้กับคนเหล่านี้ได้มีจุดยืนในสังคมอย่างเต็มรูปแบบสามารถเทียบเท่ากันทุกคน
ทั้งชายก็ดีหญิงก็ดี ถึงเราจะเป็นผู้ชายถ้าเราชอบผู้ชายด้วยกัน
ก็มีพื้นที่ให้เราแสดงออกถึงความสามารถในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป
จิมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีและอิ่มเอมใจอบอุ่นใจที่ว่าเรามีตัวตนที่ดีขึ้นในสังคม
ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนที่มองว่าเราผิดเพศ
และล่าสุดเราก็เป็นหนึ่งในนักแสดงละคร
มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า
ตอนนั้นมีคนโทรมาบอกผู้จัดการเรา
ติดต่อมาว่าอยากให้เราไปร่วมเล่นละครกับทางช่อง8ด้วย
เพราะภายในบทละครจะมีอยู่ฉากหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดความเป็นบทเกี่ยวกับ LGBTQ+ ซึ่งเรามองว่ามันเป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่เราจะสามารถคอลเอ้าท์ในกลุ่ม
LGBTQ+ ให้แพร่หลายมากขึ้นถึงแม้ว่าเราจะอยู่ส่วนของกีฬาแต่ด้านของการแสดงหรือในด้านอื่นๆ
เราสามารถแสดงจุดยืน สร้างคุณค่าเราสามารถทำในสิ่งที่เป็นโอกาสออกมาได้
อยากขอบคุณโอกาสที่ยืนโอกาสมา
บอกตรงๆว่าตื่นเต้นมากๆครับไม่รู้เลยว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนเลย แต่แน่นอนว่าผมจะทำโอกาสครั้งนี้ให้เต็มที่มากที่สุด และอีกอย่างในเรื่องนี้มีนักมวยในตำนานของไทยเล่นหลายคน
ภูมิใจและดีใจมากๆครับ
พี่ตุ้ม ปริญญา คือหนึ่งในนักแสดงละคร มวยสะดิ้ง
หมัดซิ่งสายฟ้า ส่วนตัวเรารู้จักหรือเคยได้ยินติดตาม
ประวัติเค้ามาก่อนไหม เพราะพี่เค้าก็คือนักมวย
ที่เป็น LGBQ+ เมื่อก่อน
เคยได้ยินสมญานามมาก่อนครับ เรามองเขาและรู้สึกว่านี่คือไอดอลของเราเลยครับ
นี่คือตัวอย่างที่ดีของ LGBTQ+
รุ่นก่อนๆที่ทำให้ ณ วันนี้ เหมือนเป็นใบเบิกทางให้กับรุ่นน้อง
หรือคนรุ่นหลังๆที่เป็น LGBTQ+ ให้มีความมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเอง
ซึ่งมันเป็นตัวอย่างที่ดีและมีค่ามากกว่าคำสอนในตำราครับ
ซึ่งคนสมัยก่อนแน่นอนว่าเขาต้องเผชิญกับคำดูถูกคำบูลลี่มากกว่าคนยุคเราเยอะมาก
หนูรู้สึกโชคดีที่ว่าที่หนูได้แรงซัพพอร์ตจากทุกคน ไม่มีใครมาบูลลี่เรา
เชื่อสิ่งหนึ่งว่า LGBTQ+ ทุกคนมีพลังบางอย่างที่เหมือนกันคือเกราะที่สร้างภูมิคุ้มกันเรื่องการถูกใช้คำเสียดสีดูถูกและมักจะป้องกันตัวเองได้อย่างดี
เมื่อเจอคำพูดเหล่านี้
คิดเห็นอย่างไร
หลายคนบอกว่านักมวยที่สร้างสีสันให้วงการแบบนี้ ถ้ายุคก่อนจะเป็นน้องตุ้ม
แต่ถ้ายุคนี้ ต้องเป็นจิมมี่ เท่านั้น
มันแรงเกินไปไหม (หัวเราะ) รู้สึกอิ่มใจที่เราเป็นส่วนหนึ่งได้ออกมาคอลเอ้าท์
เพื่อศักดิ์ศรีความเท่าเทียมของ LGBTQ+
ซึ่งเมื่อก่อนนั้นต้องยกให้พี่ตุ้มเลยเพราะเขาต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมมาอย่างหนัก
ซึ่งในยุคนี้ถ้าหลายๆคนยกให้เราเป็นตัวแทน หรือไอดอลของ LGBTQ+ ของการเป็นนักมวยสาว เราก็ดีใจที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง
ในส่วนของการกระทำที่เราเป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย และมีผลงานในระดับนานาชาติด้วย
ทั้งยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศชาติด้วย
จิมมี่ ในฐานะคนรุ่นใหม่ อยากบอกอะไร
ถึงการที่เรามีจุดยืนแบบนี้ แต่ทำไมต้องโดนปิดกั้น
เคารพตัวเองให้เยอะๆ รักตัวเองให้มากๆ
พอเรารักและเคารพตัวเองเราจะเข้าใจว่าทุกๆคนบนโลกนี้คือคนนอก
เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะชอบหรือไม่ชอบเรา คนที่ชอบเราก็เก็บเขาไว้
ก็มอบความรักกลับให้เขาเช่นกัน ส่วนคนที่ไม่ชอบเรา มองเขาอย่างเข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติ
บางมุมมองเราอาจจะรู้สึกไม่ชอบตัวเองยังมีเลย
ให้ความรักอย่างเท่าเทียมในสังคมหนูมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆครับ
นิยามของคำว่า มวยไม่จำกัดเพศ หรือกีฬาไม่จำกัดเพศ
สำหรับจิมมี่แล้ว มีความคิดเห็นกับคำนี้อย่างไร
ใครก็ได้ไม่ว่าจะเพศไหน
สามารถเล่นได้หมด เพศไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงความสามารถของการเล่นกีฬา
ไม่มีข้อจำกัดในสิ่งนี้ ในมุมมองหนูคิดว่าทุกคนสามารถเข้าถึงสามารถจับต้องลองเล่น
ลองทำ ทุกๆอย่างได้เหมือนกัน
ในฐานะนักกีฬา คิกบ็อกซิ่ง เราวางอนาคตหรือวางความฝันเอาไว้สูงสุดถึงขั้นไหน
สูงสุดในตอนนี้คือ เวิลด์เกมส์ ที่หนูอยากจะลองขึ้นไปแตะเวทีดูสักครั้งหนึ่งในชีวิตของการเป็นนักกีฬาครับ
แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่าอยากลองไปโอลิมปิกด้วยสักครั้ง
เพราะโอลิมปิกคือจุดสูงสุดของการเป็นนักกีฬา แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้กีฬา
คิกบ๊อกซิ่ง เป็นกีฬาประเภทใหม่ และยังไม่ถูกบรรจุในเอเชียนเกมส์ หรือในโอลิมปิก ซึ่งเวทีที่ครอบคลุมประเภทกีฬาที่สุดคงจะเป็น เวิลด์เกมส์ ที่หนูพอจะคุมร่างกายฝึกซ้อมต่อไปเพื่อที่จะไปพรีเซนต์ความเป็นไทยในด้านการเป็นนักกีฬาให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์
แม้เราจะเป็นเพศสภาพแบบนี้แต่ความสามารถที่มีเราก็ไม่แพ้กับคนอื่นๆเลย
ตอนนี้มีโอกาสใหม่เกิดขึ้นมามากมาย
เราตื่นเต้นกับความหอมหวานครั้งนี้ไหม หรือเราก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
หนูเห็นตัวอย่างจากอื่นมากมายเป็นบทเรียนในข้อนี้
หนูพยายามคิดว่าไม่อยากหลงระเริงกับสิ่งเหล่านี้ที่เข้ามาเพียงแค่ฉาบฉวยดีกว่า
หนูคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้ามาในช่วงเวลาหนึ่ง
ไม่มีทางรู้เลยว่าในอนาคตอันใกล้กระแสพวกนี้อาจจะหายไป
ต้องยอมรับว่าคลิปหนูมันดังเป็นพลุแตก หนูก็ไม่อยากจะยึดติดกับอะไรตรงนั้นนาน
แต่ถ้ามีโอกาสอะไรดีเข้ามาคิดว่าคว้าไว้จะดีกว่า
ใช้โอกาสนี้ในการต่อยอดเรื่องการแสดงยังไงบ้าง
ตอนนี้ก็มีแพลน
กับพี่ๆที่เป็นตัดต่อเหมือนกันว่า อยากจะลองทำช่องยูทูบเพื่อให้ความเกี่ยวกับด้านกีฬา
ซึ่งตอนนี้ คิกบ๊อกซิง ถือเป็นกีฬาน้องใหม่
อยากให้คนหันมาสนใจกีฬาประเภทนี้มากขึ้น และคิดว่าจะมุ่งหน้าพัฒนาในด้านอื่นๆตามแพลนที่วางไว้อีกไม่น้อยเลยครับ
หากภายภาคหน้ามีบทบาทใหม่ๆเพิ่มเข้ามาอีกสำหรับด้านการแสดงเราเลือกที่จะรับไหมหรือจะปฏิเสธดีกว่า
ถ้ายิ่งเป็นบทที่ไกลตัวเรามากเท่าไรยิ่งดียิ่งชอบเลยครับเพราะเหมือนมันเป็นชาเลนจ์ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
และจะไม่ปิดกั้นโอกาสเหล่านั้นอย่างแน่นอน บอกเลยพร้อมมากประกาศไว้ตรงนี้เลยครับ
และสำหรับเร็วๆนี้อย่าลืม ติดตามผลงานละครเรื่องแรกของจิมมี่
มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า ด้วยนะ ทางช่อง8 ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น