กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
แถลงความพร้อมการจัดงาน ‘คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา’
เตรียมเนรมิตมหานครสงกรานต์ใจกลางกรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ 21
มีนาคม 2561 – กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จัดงานแถลงข่าวเดินหน้าเตรียมความพร้อมงาน ‘คิง เพาเวอร์ สงกรานต์
รางน้ำนครา’ ระหว่างวันที่ 10 – 15 เมษายนนี้
ฉลองปีใหม่ไทยอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้คอนเซ็ปต์ วิถีไทยร่วมสมัย ชูความงดงาม
และเสน่ห์ของอัตลักษณ์ไทย พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทย ผ่านการจำลองเมืองโบราณ
ตลาดน้ำใจกลางกรุงเทพฯ ครั้งแรก อาหารไทยร้านดังจากทั่วทุกภาค และกิจกรรมอีกมากมาย
เล็งตั้งเป้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ในปฏิทินท่องเที่ยวประจำปีของไทยและของภูมิภาค
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ กล่าวว่า " คิง
เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 15 เมษายน 2561 โดยมีแนวคิดหลักในการจัดงาน คือ วิถีไทยร่วมสมัย โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีแรก
และตั้งเป้าจัดเป็นประจำทุกปี พร้อมต้องการให้บรรจุลงในปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยวประจำปีของไทย
หวังดันการใช้จ่ายภายในประเทศ กระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าชุมชน และดึงนักท่องเที่ยวชาวไทย
และชาวต่างชาติให้มาเที่ยวในช่วงเมษายนมากขึ้น รูปแบบของงานจำลองวิถีชีวิตไทยในรูปแบบเมืองโบราณ
ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยเนรมิตพื้นที่จัดงานกว่า 3,000 ตารางเมตร
เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์แห่งความเป็นไทย และคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยในรูปแบบร่วมสมัย
แปลกใหม่ และมีเสน่ห์ โดยนำสีสันแบบไทย อาทิ สีแดงชาด สีเหลืองไพร
สีเขียวใบแค สีรงทอง มานำเสนอในรูปแบบใหม่ผ่าน 5 โซน ได้แก่ 1). โซนวัด คือ โซนที่เต็มเปี่ยมด้วยศิลปะวัฒนธรรมไทยอันดีงาม อาทิ การสรงน้ำพระ การก่อเจดีย์ทราย 2). โซนตลาด ที่รวบรวมร้านอาหารดังมาไว้ ทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ 3). โซนทุ่ง ที่นำประเพณีไทยและพิธีการต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์มาไว้ในโซนนี้ 4). โซนสวน เป็นโซนที่มีการแสดงต่างๆ มาสลับหมุนเวียนให้รับชม ปิดท้ายด้วย 5).โซนบ้าน ที่นำเอกลักษณ์ของรูปแบบวิถีไทยทั้ง 4 ภาค รวมทั้งอาหารดังประจำภาคมาไว้เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยร้อยเรียงประเพณีไทยดั้งเดิมพร้อมความบันเทิงที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ อีกทั้งได้รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารชื่อดังระดับตำนานทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างประสบการณ์และความประทับใจที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับการท่องเที่ยวไทยต่อไป"
สีเขียวใบแค สีรงทอง มานำเสนอในรูปแบบใหม่ผ่าน 5 โซน ได้แก่ 1). โซนวัด คือ โซนที่เต็มเปี่ยมด้วยศิลปะวัฒนธรรมไทยอันดีงาม อาทิ การสรงน้ำพระ การก่อเจดีย์ทราย 2). โซนตลาด ที่รวบรวมร้านอาหารดังมาไว้ ทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ 3). โซนทุ่ง ที่นำประเพณีไทยและพิธีการต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์มาไว้ในโซนนี้ 4). โซนสวน เป็นโซนที่มีการแสดงต่างๆ มาสลับหมุนเวียนให้รับชม ปิดท้ายด้วย 5).โซนบ้าน ที่นำเอกลักษณ์ของรูปแบบวิถีไทยทั้ง 4 ภาค รวมทั้งอาหารดังประจำภาคมาไว้เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยร้อยเรียงประเพณีไทยดั้งเดิมพร้อมความบันเทิงที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ อีกทั้งได้รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารชื่อดังระดับตำนานทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างประสบการณ์และความประทับใจที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับการท่องเที่ยวไทยต่อไป"
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
คือ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2561
คาดจะมีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวราว 3 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มจากปีก่อน 12% และตั้งเป้าให้เกิดการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศราว
1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
โดยมีปัจจัยจากมติคณะรัฐมนตรีทีประกาศให้มีวันหยุดเพิ่มอีก 1 วัน คือ 12 เมษายน 2561 คาดส่งผลให้มีชาวไทยเดินทางเพิ่มขึ้นอีกราว
600,000 คน ช่วยให้นักท่องเที่ยวกระจายสู่พื้นที่ท่องเที่ยวมากขึ้น
ลดการกระจุกตัวเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักเนื่องจากมีระยะเวลาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวสูงขึ้น ด้านแผนการตลาดของททท. ได้เตรียมแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ด้วยการโฆษณาและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านช่องทางการสื่อสารหลายแขนง
คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนรวม 5 วัน สูงถึง 19,820
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน
ด้านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคาดเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยระหว่าง
12-16 เมษายนนี้ ราว 530,000
คน เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน สร้างรายได้ราว 9,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% โดยส่วนใหญ่จะพักเฉลี่ย 3 วัน
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 5,500 บาท และคาดว่าปีนี้จะจับจ่ายเพิ่มขึ้น
6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นนักท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาราว
165,000 คน เพิ่มขึ้น 38% ส่วนตลาดรองลงมาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
คือ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย 22% และเกาหลีใต้ 54% โดยยอดจองบัตรโดยสารเครื่องบินรายตลาด ช่วง 12-16 เมษายน
2561 สำหรับ 5 อันดับแรกที่มียอดจองเข้ามาสูงสุด คือ จีน
เกาหลีใต้ เยอรมนี ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร1 ทั้งนี้
ททท. เตรียมบรรจุงาน “คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา”
เป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ประจำปีของปฏิทินท่องเที่ยวไทย
และเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวในอาเซียนต่อไป"
สำหรับงาน
คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา ตั้งเป้าให้คนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้น
และเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นเช่นกัน ส่งเสริมให้ผู้บริโภคทั่วไปมาชม
ช้อป และชิม สินค้าไทย และอาหารไทย สำหรับไฮไลท์ของงานประกอบด้วย การเนรมิตตลาดน้ำใจกลางกรุงเทพฯ
เป็นครั้งแรก! ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงพื้นบ้าน
4 ภาค การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยประยุกต์
และขบวนแห่ตามประเพณีต่างๆ อาทิ แห่นางสงกรานต์ ฯลฯ ร่วมสรงน้ำพระ
โดยอัญเชิญพระพุทธรูปยุคต้นรัตนโกสินทร์ประจำวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก)
ที่มีอายุกว่า 200 ปี
พร้อมร่วมประกวดก่อพระเจดีย์ทรายชิงรางวัลมากมาย พิเศษ! กับขบวนแห่นางสงกรานต์
‘มโหธรเทวี’ ในชุดนกยูงสุดอลังการจากดาราหญิงชั้นนำของประเทศสลับหมุนเวียนทั้ง
6 วันได้แก่ คิม – คิมเบอร์ลี่ แอน
โวลเทมัส (10 เม.ย.)
แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ (11 เม.ย.) ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก (12 เม.ย.) เบลล่า – ราณี แคมเปน (13 เม.ย.)
ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ (14 เม.ย.) และมิ้นท์ – ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง (15 เม.ย.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ EXPLORE ENDLESSLY - การค้นพบ ไม่มีวันสิ้นสุด
แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ (11 เม.ย.) ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก (12 เม.ย.) เบลล่า – ราณี แคมเปน (13 เม.ย.)
ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ (14 เม.ย.) และมิ้นท์ – ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง (15 เม.ย.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ EXPLORE ENDLESSLY - การค้นพบ ไม่มีวันสิ้นสุด
ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย
และชาวต่างชาติร่วมแต่งกายในชุดไทยร่วมสมัย ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2561 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น