กลับมาอีกครั้งสำหรับละครน้ำดีตีแผ่ปัญหาสังคมอย่างละคร
“วัยแสบสาแหรกขาด 2” หลังจากกวาดรางวัลมาแล้วอย่างมากมายในภาคแรก
ครั้งนี้ผู้จัดหนุ่มไฟแรง “เอิน ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล”ขอยกระดับความเข้มข้นศึกษาทุกปัญหาแบบเจาะลึกเข้มข้นมากกว่าภาคแรก
คัดออกมา 5 ปัญหาหลักแถมยังทำการออดิชั่นคัดจากเด็กหลายพันคนกว่าจะได้เด็กที่มีความสามารถมาถ่ายทอดบทบาทนี้ให้สื่อถึงผู้ชมได้อย่าง
ถึงอารมณ์ โดยได้ “ฟลุท ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์ รับบท ใบพัด ที่มีอาการ
/ออทิสซึ่ม (Autism) ,ยอร์ช
ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ รับบท บุ๊ค
ที่มีอาการ /ติดเกมส์ (Gaming Addiction) ,พลอย ศรนรินทร์
รับบท ไออุ่น ที่มีอาการ/ความ หลากหลายทางเพศ (Gender Creative),ลิลลี่
ณิชภาลักษณ์ ทองคำ รับบท วีหนึ่ง ที่มีอาการ/มนุษย์สายท็อป(Perfectionnism),เซนท์ ธนพัชญ์
จันทศร รับบท พีท ที่มีอาการ /เด็กกรี๊ด (Temper Tantrum) ที่พร้อมให้ทุกคนให้พิสูจน์ฝีมือกัน
ส่วนพระเอกนางเอกของเรายังคงเป็น
“จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม” ในบทบาทของ “ครูทราย”
ที่อุทิศตนเต็มที่เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ พร้อมเดินเคียงข้างไปกับ “อาเล็ก ธีรเดช
เมธาวรายุท”กับบทบาทของ “ผู้อำนวยการโรงเรียน ผอ.กร”
ที่มุ่งมุ่นในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้สมบูรณ์แบบในทุกด้าน
ความพิเศษของภาคนี้ไม่เพียงเจาะลึกปัญหาเด็ก
ยังจะได้เห็นมุมมองความรักของพระนางกันอีกด้วยเข้มข้นไม่แพ้กัน เปิดเทอมแรกนี้
“ครูทราย”จะได้ทำงานเป็นครั้งแรกโดยมีตำแหน่งภรรยาของ ผอ.พ่วงท้าย! นอกจากนี้ขอขอเสริมทัพด้วยนักแสดงมากความสามารถคุณครูอีก3ท่านที่จะมาคอยช่วยแก้ปัญหาของเด็กๆ “นิว ชัยพล” ในบทบาทของ “ครูป้องเกียรติ”
ครูแนะแนวช่วยโครงการพิเศษพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ “นิ้ง ศรัณยา” รับบท “ครูชิชา”
ครูสาวจบใหม่ที่มาจากต่างจังหวัดทำงานเป็นครั้งแรก และ “รัดเกล้า อามระดิษ”
นักแสดงมากฝีมือ มาในบทบาทของ “ครูพรรณี” รองผอ.ฝ่ายวิชาการ
ครูเจ้าระเบียบเข้มงวด
“เอิน ณิธิภัทร์” – สำหรับละครเรื่อง วัยแสบสาแหรกขาด
1ที่ทำไปนั้นกระแสตอบรับดีมีคนชอบอีกด้านนึงก็มีคนบอกปัญหายังมีอีกเยอะนะอยากให้เราทำต่อ
เราก็ตกใจนะว่ายังมีปัญหาอีกเยอะเลยเหรอ
และถ้าเราปล่อยให้จบไปและไม่หยิบมาทำอีกก็คงจะไม่ได้
เพราะเราคิดว่าสิ่งไหนที่เราช่วยได้สิ่งไหนที่เราอยากนำเสนอและช่วยหาทางออกให้ได้ก็อยากช่วยและตัดสินใจทำโครงการ
สองขึ้นมาครับ
ก็ได้คุยกับทีมงานและทีมเขียนบทและที่ปรึกษาว่าควรจะเป็นเคสไหนดี พอได้ไปศึกษาหาข้อมูลได้ไปสัมผัสเราก็อยากจะหยิบยกเคสที่ใกล้ตัวพวกเรา
แต่เราจะทำยังไงให้คนเข้าใจคีย์หลักเลยจะเป็นว่า
“การฟังเสียงที่อยู่ข้างใน”เพราะว่าบางเคสเหล่านี้คนรอบข้างต้องสังเกตและเข้าใจ
จนได้มาทั้งหมด5ประเด็นทุกอย่างใหม่หมด ทั้งเคสใหม่
นักแสดงใหม่เรียกได้ว่าเปิดโลกของเราเหมือนกัน
การรีเสิร์ชแน่นมากเพราะคอนเซ็ปของเราคือไม่ได้ทำแค่สะท้อนสังคมแต่เรานำเสนอแนวทางให้กับสังคม
อาจจะไม่ใช่100เปอเซ็นต์แต่เรายังเชื่อว่าสิ่งที่เรานำเสนอยังมีทางให้เราไปบอกให้ผู้ชมเข้าใจว่ายังมีทางนะปัญหายังมีทางออก”
“จ๊ะ จิตตาภา”- ทรายในภาคนี้จะโตขึ้นมากจากภาคที่แล้วมากค่ะ
ทั้งในแง่ของชีวิตส่วนตัว และในแง่ของชีวิตการทำงานด้วย ในเรื่องของความรักเราเหมือนเป็นตัวแทนของคู่สามีภรรยา ชีวิตคู่ก็จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง
มีปัญหามีเข้ามา ส่วนในเรื่องของที่โรงเรียน
แน่นอนเรามีเคสเด็กที่เราต้องดูแลอยู่แล้วค่ะ ความยากของเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องบทค่ะ บทพูดยากมาก
เพราะเป็นศัพท์ทางวิชาการเยอะ แล้วเราต้องพูดด้วยความเข้าใจจริงๆ
ไม่อย่างนั้นจะดูเหมือนท่องบทมากๆ และจะมีภาษาอังกฤษแทรกตลอด
เป็นศัพท์ที่ต้องพูด มี 5 เคส เราต้องพูดทั้ง 5 เคส แล้วมีว่าบางวันที่ทั้ง 5
เคสมาเจอกันในวันเดียว จ๊ะแบบสมองกลับมากค่ะ แต่ถ้าเวลาที่คุณครูทั้งหมดมาเจอกัน บทจะโยนไปทางพี่ต๊งเหน่งเยอะ
(ยิ้ม) เพราะเขาจะเป็นตัวแทนในเรื่องของการศึกษาไทย แต่ที่จะมีเวลาเข้าฉากกับผู้ปกครอง
เข้ากับนิว-ชัยพล เหมือนเราตอบวิชาการใส่กัน จำยากมาก อีกอย่างหนึ่งที่ยากคือ
การเล่นกับน้องพลอยค่ะ ยากที่จะไม่ร้องไห้ น้องพลอยเขามาเต็มมาก
อินเนอร์เขาส่ง เวลาเราเล่นด้วยกันกับน้องเราจะรู้สึกว่าสนุกมาก เพราะเขาเป็นคนเล่นตาเป็น แล้วเวลาส่งคำพูดตอบโต้กัน รวมถึงการมองตากับน้องเป็นเรื่องยากมากที่เราจะไม่ร้องไห้ตามเขา
แล้วความเป็นทรายทิพย์จะต้องไม่ร้องไห้ต่อหน้าคนที่เรากำลังบำบัดอยู่
ก็ต้องมีการหลุบตาบ้าง เหลือบตามองบน
ทำยังไงก็ได้ไม่ให้น้ำตาไหล
มีเด็กกรี๊ด ด็กกรี๊ด, มนุษย์สายท็อป,
ออทิสซึ่ม, ติดเกม และความหลากหลายทางเพศ 5 เคสนี้ยากกว่า 5 เคสแรก การแก้ยากขึ้นมาก
จ๊ะว่าภาคนี้ยากขึ้นจริงๆ
ทุกอย่างลึกขึ้นกว่าเดิม ปัญหา 5
เคสที่เลือกมาในภาคนี้ละเอียดอ่อนมากขึ้น อย่างเคส
ออทิสซึ่ม เราโชคดีเพราะว่าเราได้ไปโรงเรียนเฉพาะทางจริงๆ เราได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ก่อนทั้งตัวของครูทุกคน
และตัวของน้องฟลุทด้วย ได้ไปเห็น ได้ไปอยู่ ได้ไปสัมผัส
ทุกอย่างก็ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ ทุกอย่างจะต้องมีการตีความแล้วตีความอีกว่าได้ไหม
ถูกไหม จ๊ะชอบฉากที่เขาโยกตัวอยู่หน้าบ้าน หลังเขากระแทกกับกำแพง
วันนั้นฟลุทกระแทกหลายเทคมาก
ทำให้เรารู้สึกว่า น้องใช่มากๆ เขาเล่นด้วยความเป็นออทิสซึ่มจริงๆ
ไม่ได้เป็นแอคติ้ง รู้สึกว่าเขาเอาออกมาจากอินเนอร์จริงๆ หรืออย่างเด็กเด็กติดเกม ได้น้องยอร์ชมาแสดง จะค่อนข้างไปในทางรุนแรง
มีความก้าวร้าวต้องไปดูในละครว่าจะมีวิธีการแก้ยังไงบ้าง แต่ว่าเป็นตัวละครที่ถูกแก้ตั้งแต่แรกๆ
เลยของเรื่อง เพราะว่าเขามาถึง ก็อาละวาด
ฝาดงวงฝาดงา เขาก็จะถูกแก้ก่อนเพื่อนๆ
แต่กว่าจะแก้สำเร็จก็พร้อมๆ กัน
เวลาเราพูดว่าเด็กติดเกม
เราอาจจะเห็นภาพเด็กบ้าเล่นเกม จริงๆ แล้วอาการเหมือนเด็กติดยา
ติดจนแบบไม่ไหวต้องมีอะไรอยู่ในมือ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทั้งตัวน้อง
แล้วก็ตัวเราด้วย เพราะว่าเด็กประเภทนี้เขาจะมีความก้าวร้าวอยู่ ในเรื่องของการบำบัดเราไม่รู้ว่าเขาจะทุ่มเก้าอี้ใส่เราเมื่อไร
มีความเดาทางตัวละครไม่ถูกเหมือนกันว่า
อารมณ์ดีหรือว่าฉุนเฉียว ฉากที่เข้ากับน้องแล้วรู้สึกว่าผู้ชมห้ามพลาดเลย
คือ ฉากที่เข้าไปพูดคุยกับเขา อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ตั้งแต่อ่านบทเราก็น้ำตาไหล
เป็นการพูดถึงปัญหาของน้อง คิดอยู่เหมือนกันว่าตอนเล่นน้องจะยังไงนะ พอเล่นแล้วก็มาเต็มคะทำให้ข้างหน้ามอนิเตอร์เขาร้องไห้ได้ อยากจะให้ดูต่อ เพราะว่าภาคนี้ตัวละครที่เคยอยู่ในภาคแรกโตขึ้นหมดเลยในเรื่องของการใช้ชีวิต แม้แต่เรื่องของการทำงานด้วย แล้วก็มี 5
เคสใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากๆ
รวมถึงเรามีนักแสดงใหม่เพิ่มขึ้นมาที่จะมาสร้างสีสันให้เรามากมายเหลือเกิน
ครบรสจริงๆ เพราะจะมีดราม่าแบบที่รู้สึกอุ่นหัวใจ
มีดราม่าในลักษณะที่เป็นแบบครอบครัวที่ไม่เข้าใจ ซึ่งจ๊ะเชื่อว่าจะต้องโดนใครหลายๆ
คนแน่นอน ดูแล้วรู้สึกว่า ครอบครัวเราก็เป็นแบบนี้ ที่พูดมาไม่ได้บอกว่าจะเครียดอย่างเดียวนะคะ
จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊กในตัวละครแต่ละตัวด้วย
สำหรับใครที่เป็นแฟนภาคแรกก็น่าจะชอบภาคสองต่อแน่นอน ฝากสำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคแรกก็อยากให้ลองเปิดใจให้เรานิดหนึ่ง ถือว่าเป็นละครที่สร้างสรรค์สังคมแบบจริงๆ
อยากให้ดูเพื่อที่เราจะได้เห็นปัญหาว่ายังมีอีกมากมายเลย อยากให้ทุกคนช่วยกันเพื่อที่จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น
โดยเฉพาะผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีลูก ตั้งแต่ลูกเล็กๆ
ไปจนถึงวัยรุ่นที่รู้สึกว่า ไม่รู้ว่าจะรับมือกับลูกยังไงไม่รู้ว่าสิ่งที่ลูกเป็นคืออะไร
บางทีละครเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณได้เห็นอาการต่างๆ ที่ลูกเป็นว่าใช่ไหมแล้วมีวิธีแก้ไขยังไง ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
อยากให้ดูกันเยอะๆ ค่ะ
“อาเล็ก ธีรเดช
“-รู้สึกถึงอำนาจครับ
ไม่ใช่ก็หน้าที่ที่มันยิ่งใหญ่ขึ้นมันก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มันยิ่งใหญ่กว่าครับผม
เอ้ะนี่มันสไปร์เดอร์แมนปะเนี่ย(หัวเราะ)แต่จริงๆพอหน้าที่การงานมันสูงขึ้น
ความรับผิดชอบมันก็ต้องยกขึ้นตามไป
ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีคุณแม่คอยช่วยตอนที่คุณแม่เป็น ผอ.คุณแม่คอยคุมทุกอย่างพอมาเรื่องนี้
พอมาภาคนี้เราต้องเป็นคนคุมทุกอย่างเอง ก็กลายเป็นโรงเรียนของเราจริงๆแล้ว
เด็กๆของเราจริงๆโรงเรียนของเราจริงๆแล้ว ด้วยความที่ หนึ่งคือเรื่องของบทที่มันไม่ใช่บทที่เราพูดคำในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ด้วยความที่เป็น ผอ.อยู่ในโรงเรียน
มีการประชุมบ่อยๆมันไม่ใช่แบบการพูดเล่นแบบสไตล์อาเล็กอยู่แล้ว
มันมีอะไรที่วิชาการ มีศัพท์ทางเทคนิค มีศัพท์ทางวิชาการเยอะขึ้น
ก็บทเนี่ยเราก็ต้องท่องจริงจังอยู่แล้ว
และด้วยความเข้มข้นของบทการที่เราต้องเข้าไปใส่ใจเด็กหรือว่าแม้แต่ตอนที่เราต้องทะเลาะกับทราย
มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเยอะ ซึ่งก็ต้องทำการบ้านเยอะเหมือนกันครับผม
กดดันมั้ยตอนแรกก็กดดันครับผมด้วยความที่มันเป็นภาคต่อของภาคแรกซึ่งภาคแรกเราก็เล็กรู้สึกว่าประสบความสำเร็จนะกับการที่คนมองเห็นถึงประโยชน์ของละครเรื่องนี้ครับผม
ซึ่งพอมันมาเป็นภาค2ตอนแรกเราก็กดดันเหมือนกัน
ได้เห็นบทได้เห็นการแสดงของทุกคนในเรื่องได้เห็นทั้งหมดนี้แล้วก็หายห่วงแล้วก้ไม่กดดันแล้วเพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันดีมากจริงๆ
มันต้องให้อะไรกับคนดูมากๆเล็กว่ามันต้องให้มากกว่าภาคแรกแน่ๆก็เลยไม่ห่วง
“นิว ชัยพล “- ครับผมพูดง่ายๆเลยคือโดนพี่เอิร์นหลอกมาครับ
พี่เอิร์นบอกว่าผมจำได้แม่นเลยพี่เอิร์นโทรมาแล่วบอกว่า
นิวใช่มั้ยครับมีบทเรื่องนึงครับวัยแสบสาแหรกขาดภาค2
ผมก็รู้อยู่แล้วล่ะภาคแรกเพราะผมไปงานประกาศรางวัลวัยแสบก็จะได้ชิงตลอดแล้วก็ได้รางวัลด้วย
เราก็แบบเห้ยน่าสนใจ
เล่นเป็นครูที่แบบประมานนี้ๆเป็นครูที่อาจต้องวิชาการหน่อยเป็นศัพท์วิชาการหน่อย
อาจจะไม่ได้มาทุกตอนนะแต่ว่าเหมือนพูดแล้วน่าสนใจ
พูดแล้วน่าเชื่อถือเพราะเป็นครูที่มีศัพท์วิชาการหน่อย เป็นการศึกษาแล้วก็นำมาสอนเป็นวิธีการศึกษาแบบใหม่
เราก็แบบเออน่าสนใจก็อยากเล่นเลย
ตอนนั้นก็มีหลายเรื่องนะติดต่อมาแต่ว่าเราเป็นคนที่ชอบเล่นละครทีละเรื่อง
ก็จะเลือกเรื่องที่เราสนใจมากที่สุดแล้วเรื่องนี้ก้แบบฟังปุ้ปรู้สึกแปลกดี
แตกต่างดีแล้วก็ไม่เคยเล่นแบบนี้ก็เลยคิดง่ายเลยครับเล่นเรื่องนี้ละกัน
วัยแสบสาแหรกขาดโครงการ2 แต่พอมาอ่านบทจริงๆแล้วที่บอกว่าโดนหลอกก็เพราะว่า
ทุกฉากครับแทบจะทุกฉากทุกตอน ทุกตอนครับแทบจะทุกฉาก
และก็แทบจะทุกฉากที่มีผมบทยาวมาก เป็นหน้าครับเยอะมาก
แล้วก็ศัพท์แต่ละศัพท์เนี่ยเป็นวิชาการทั้งนั้น แล้วก็ไม่สามารถพูดแบบปกติได้
เพราะว่าเราต้องรับผิดชอบเคสเด็กพิเศษ2เคสหลักๆ
คือหนึ่งคือเด็กที่มีภาวะออทิสซึมเราก็ไม่สามารถพูดหรืออธิบายเหมือนกับเราพูดกับคนปกติได้เพราะว่าเด็กที่มีสภาวะออทิสซึมเขาจะมีการรับรู้
พฤติกรรมหรือวิธีคิดแตกต่างจากเรา เราจึงต้องมีวิธีการสอนหรือวิธีการพูดที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป
รวมถึงอีกเคสนึงคือเคสเด็กกรี๊ดและผมก็เป็นเหมือนครูประจำชั้นของห้องป.1/6ด้วย แค่พูดว่าเด็ก
ป.1/6ก็ว่ายากแล้วครับในห้องก็ประมาน
20คนได้ครับ
ผมก็ต้องรับมือกับเด็ก20คนนั้น รวมถึงอธิบายหรือสอนในแต่ละเรื่องให้เด็กทุกคนเข้าใจได้
และเด็กทุกคนครับก็จะมีปัญหาเป็นของตัวเองที่จะอยากรู้มากในทุกๆเรื่อง แล้วเด็ก20คนอยู่ด้วยกันผมก็แทบจะตอบคำถามเกือบไม่ทันครับ
เพราะทุกคนจะมีคำถามทุกๆ5วินาทีมาถามครูป้อง
ครูป้องก็ต้องตอบให้ได้เราก็ต้องหาคำตอบมาตอบเด็กๆให้ได้ว่าคำตอบในคำถามของเค้าเป็นยังไงแล้วบางคนไม่เข้าใจเราก็ต้องอธิบายให้ได้เยอะๆอธิบายไปเรื่อยๆคือมันเยอะมากอะ
รวมถึงรับผิดชอบเด็กพิเศษอีกคนนึงที่เป็นเด็กกรี๊ดด้วยเราก็ต้องมีวิธีการพูดที่แตกต่างกันไปอีกเพราะว่า
เค้าเป็นเด็กที่ได้รับการสปอยมาตั้งแต่เด็ก คือปัญหาของเด็กบางทีมันไม่ได้เกิดขึ้นที่ตัวเด็ก
มันเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมและสิ่งแวดล้อมที่เค้าโตมาตั้งแต่เด็กจนมาถึงปัจจุบันนี้
เค้าอาจจะโดยสปอยมาโดยตายายสปอยมา แม่สปอยมาแม่ไม่มีเวลาเลี้ยง
ทุกสิ่งทุกอย่างมันก่อให้เกิดการที่เค้าเป็นแบบนี้ได้
แล้วพอเค้าเข้ามาในโรงเรียนแล้วเจอคำว่าไม่ครั้งแรกปุ๊ปโอโหกรี๊ดปรี๊ดแตกครับ
เราเป็นครูเราก็ต้องค่อยๆหาวิธีและทำให้เค้าเย็นลง
แล้วก็ทำให้เค้ากลับมาเป็นปกติให้ได้เร็วที่สุดครับ
การันตีด้วยนักแสดงและเนื้อหาเรื่องราวสะท้อนสังคมจะได้รับประโยชน์และความสนุกจากละครเรื่องนี้ไปเต็มๆ
ติดตามชมและเป็นกำลังใจให้กับละคร “วัยแสบสาแหรกขาด2 “กันได้ ทุกวัน
ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3HD ช่อง33 เริ่มตอนแรก
ศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2562 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น